บางแสน ชลบุรี

เศรษฐกิจจีนแย่ลง อินเดียดีขึ้น

เศรษฐกิจจีนแย่ลง อินเดียดีขึ้น

เมรุวัดแสนสุข เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ มี 2 เตาเผา ขณะนี้เสียไป 1 เตาเผา ต้องใช้งบ 1.5 ล้านเปลี่ยนเตาเผาลูกที่เสีย วัดแสนสุขสร้างเมื่อ ค.ศ.1772 สมัยกรุงธนบุรี เดิมชื่อวัดแสนแสบ เปลี่ยนชื่อเป็นวัดแสนสุขเมื่อ ค.ศ.1947 ปัจจุบันมีพระราชาคณะ (เจ้าคุณ) พระมงคลปริยัติกิจ อายุ 88 ปี เป็นเจ้าอาวาส ท่านใดจะร่วมทำบุญซื้อเตาเผาศพ สามารถโอนเงินทำบุญตรงไปที่วัดเลยครับ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 2012845464 ชื่อบัญชีวัดแสนสุข ขออนุโมทนาบุญครับ

ประเทศที่มีประชากรเกิน 1.4 พันล้านและเติบโตทางเศรษฐกิจจนมายืนแถวหน้าของโลกคือจีนกับอินเดีย แต่หลังจากวิกฤติโควิด-19 จีนเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ค.ศ.2023 เป็นปีที่เศรษฐกิจจีนแย่ที่สุด การส่งออกลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ค.ศ.2016 มีมูลค่า 3.38 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับ ค.ศ.2022 การส่งออกลดลงไปร้อยละ 4.6 การส่งออกไม่ดี จีนลดการนำเข้าร้อยละ 5.5 ความต้องการในการบริโภคภายในประเทศของจีนก็อ่อนแอลง

หนึ่งในบรรดาเรื่องร้ายที่ทำให้จีนเดินเซก็คือ ความล่มสลายของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโดมิโนพันไปในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการก่อสร้างและแรงงาน งานในแผ่นดินจีนที่แต่เดิมมีมากมาย แต่ตอนนี้เริ่มมีคนมากกว่างาน เขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ คนจีนเริ่มตกงานมากขึ้น ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นก็ลดน้อยถอยลงไป นักลงทุนต่างชาติไม่หวนกลับไปลงทุนในประเทศจีนอีกแล้ว

จีนกำลังงง ไม่รู้จะเอาอย่างไรกับอนาคตของตนเอง รัฐบาลจะตัดสินใจอะไรก็ต้องระมัดระวัง เพราะถ้าตัดสินใจพลาด ความโอดโอยโหยหวนไม่ได้เกิดกับแค่คนสองคน แต่กระทบไปถึงพันล้านคน ขณะที่จีนกำลังงง อินเดียกลับแฮปปี้มีความสุข อินเดียได้อานิสงส์จากนโยบาย China Plus One บริษัททั้งหลายในโลกนี้หนีความเสี่ยงจากจีน และไปลงทุนที่อื่น บางบริษัทไปลงทุนที่เวียดนาม แต่เวียดนามก็เล็กมากถ้าเปรียบเทียบกับจีน มีเพียงประเทศเดียวที่มีขนาดประเทศใหญ่โตมโหฬารและมีประชากรมากพอกับจีนก็คืออินเดีย

วันก่อน ผมเขียนรับใช้รายชื่อของบริษัททั้งของอินเดียและต่างชาติที่ตบเท้ากันเข้าไปลงทุนในทมิฬนาฑูซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้ของอินเดีย ที่รับใช้ไปเป็นเพียงรัฐเดียว แต่อยากจะบอกว่าการขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวของอินเดียในวันนี้ดำเนินไปอย่างแรงและเป็นไปทุกองคาพยพทั้งประเทศ รัฐเล็กรัฐน้อยต่างพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย

เดือนมกราคม 2024 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อินเดียคาดการณ์เติบโตปีนี้ (ปีงบประมาณอินเดียสิ้นสุด 31 มีนาคม) ที่ร้อยละ 7.3 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว แต่อินเดียกลับเติบโตเกินร้อยละ 7 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน S&P Global Ratings บอกว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตเร็วที่สุดในโลก คาดกันว่าใน ค.ศ.2030 อินเดียจะมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก แซงหน้าญี่ปุ่นและเยอรมนี (อันดับ 1 สหรัฐฯ อันดับ 2 จีน)

นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ตระเวนดูดบริษัทระดับโลกให้มาตั้งโรงงานในอินเดีย เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น รัฐบาลอินเดียก็เอาเงินไปสร้างถนน ท่าเรือ สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานอื่น โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทำให้อินเดียมีผลผลิตจากการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

สมัยก่อนตอนที่โลกยังไม่มีการสื่อสารทางไกล ประเทศใหญ่ที่พลเมืองเยอะอย่างอินเดียและจีนเป็นประเทศที่มีปัญหา ผู้คนยากจน ประเทศเล็กและประชากรน้อยทำให้รัฐบาลดูแลได้ทั่วถึงมากกว่า (อย่างเช่นสิงคโปร์) แต่หลังจากโลกมี ‘tele–’ ไม่ว่าจะ tele–education, telemedicine, telecommunication ฯลฯ ประเทศใหญ่ที่มีประชากรเป็นจำนวนมากกลับได้เปรียบ

ตั้งแต่ ค.ศ.2024 เป็นต้นไป อินเดียจะเป็นสาธารณรัฐที่ทั้งโลกทั้งปวงต้องจับตามอง สำหรับจีน เศรษฐกิจจีนจะลดความร้อนแรงลง แต่เราก็มีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่ารัฐบาลจีนเก่งและจะมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาทั้งปวง และจะทำให้เศรษฐกิจจีนกลับมาดีดังเดิม.

เรื่องล่าสุด