งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21-2021 กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่ นักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างชาตินับหมื่นร่วมชิงชัย สนามวิ่งถนนแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก World Athletics Elite (Gold) Label Road Race เน้นความปลอดภัยสูงสุด ด้านพ่อเมืองแสนสุขประกาศเตรียมความพร้อมเมืองบางแสนทุกด้านต้อนรับนักวิ่งและกองเชียร์ร่วมงานอีเว้นท์ใหญ่ของเมือง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ในบางแสนกลับมาคึกคัก เอเชีย 2 ปอดเหล็ก “ณัฐวุฒิ – ลินดา” ควงคู่คว้าชัย

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข เผยว่า งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน21 จะประสบความสำเร็จ จนได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก World Athletics Elite (Gold) Label Road Race แต่ทางเทศบาลเมืองแสนสุขก็ยังไม่หยุดในการพัฒนาและเตรียมความพร้อมของเมืองบางแสนในทุกๆ ด้าน เพื่อไว้คอยต้อนรับนักวิ่ง กองเชียร์ผู้ติดตาม รวมถึงนักท่องเที่ยว ในการจัดงานปีนี้ทางเทศบาลได้เตรียมความพร้อมในด้านมาตรการการป้องกัน ความปลอดภัย ความพร้อมของถนน ไฟฟ้าความสว่าง การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การปรับภูมิทัศน์และความสะอาดของเมืองบางแสนให้น่าดูสวยงาม ไว้เตรียมต้อนรับเหล่านักวิ่งที่มาร่วมชิงชัยความเร็วจากทั่วประเทศ ได้มีประสบการณ์ที่ดีในการแข่งขันงานวิ่งถนนที่ได้มาตรฐานระดับโลกอย่างสุขใจ ในส่วนของภาคประชาชนนั้น เหล่ากองเชียร์ คนในพื้นที่ ผู้ประกอบการ โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร พร้อมที่จะให้การต้อนรับเหล่านักวิ่ง และผู้ติดตามที่จะเข้ามาเยือนบางแสน จากการจัดงานครั้งนี้ทางเทศบาลเมืองแสนสุขหวังว่าจะช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวในบางแสนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และเป็นการตอกย้ำว่าเทศบาลเมืองแสนสุขและจังหวัดชลบุรีเป็น Healthy City และ Sport City อย่างแท้จริง

นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น – Race Director งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 กล่าวว่า งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน21-2021 จัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 7 เป็นรายการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนรายการเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก World Athletics Elite (Gold) Label Road Race จากสมาพันธ์กรีฑานานาชาติ และเป็น TOP 5 งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ดีที่สุดในเอเชีย ในปีนี้เราได้จัดงานภายใต้แนวคิด The Finest Running Event Ever งานวิ่งที่แสนสุขที่สุด

สำหรับการจัดงานในปีนี้เรายังคงรูปแบบการจัดงานภายใต้มาตรฐาน World Athletics Gold Label นักวิ่งทุกท่านจะได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การแข่งขันวิ่งถนนในสนามมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการปิดการจราจร 100% ตลอดการแข่งขัน มีจุดบริการน้ำ เครื่องดื่มเกลือแร่ ขนม ผลไม้ ทุกๆ 2 กิโลเมตร มีระบบการตัดตัวนักวิ่ง (Cut-off) ประกันอุบัติเหตุให้กับนักวิ่งทุกคน การสุ่มตรวจการใช้สารกระตุ้น (Anti-Doping) และระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้ ซึ่งมาตรฐานที่สำคัญในการจัดงานปีนี้เราเน้นการจัดการแข่งขันภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ตามมาตรการสาธารณสุขที่เข้มข้น ตามที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จังหวัดชลบุรี และคณะกรรมการจัดงานได้กำหนดไว้ โดยเรามุ่งเน้นใช้มาตราการ Covid Free Setting Event 100% นักกีฬาและผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบโดสตามที่กำหนด มีการตรวจเอทีเค (ATK) แอปหมอพร้อมไม่เกิน 24 ชั่วโมง ทั้งในวันที่มารับบิบและก่อนการแข่งขัน และเรายังทำการปล่อยตัวเป็นเวฟ เพื่อลดความแออัด ซึ่งเป็น 1 ใน 5 มาตรการ New Normal ช่วยลดความเสี่ยงในสถานการณ์โควิด-19

“การแข่งขัน แม้ว่าปีนี้ เราจะไม่มีนักวิ่งอีลิทระดับโลกเข้าร่วมแข่งขัน เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่เรามีนักวิ่งขาแรงชาวไทยทั้งชาย-หญิง เข้าร่วมประชันฝีเท้ากันอย่างคับคั่ง เพื่อมาลุ้นรางวัลในประเภทต่างๆ กันอย่างดุเดือด รวมถึงมหกรรมศึกชิงลิงแห่งชาติ รางวัล Top 100 ขาแรงทั้งชายและหญิง และ Top 10 ขาแรงชาย-หญิง รุ่นอายุ 60 ปี มาลุ้นกันว่า ปีนี้สถิติลิงตัวที่ 100 จะอยู่ที่เวลาใด และต้องมาร่วมลุ้นกันว่า แชมป์เก่าชายปีที่แล้ว ณัฐวุฒิ อินนุ่ม เข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 1:07:45 ชั่วโมง และแชมป์เก่าหญิง ลินดา จันทะชิต ที่ทุบสถิติ New PB ด้วยเวลา 1:22:15 ชั่วโมง ในปีนี้ทั้งสองจะสามารถรักษาแชมป์และทำลายสถิติเดิม สร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองและสนามได้หรือไม่ ซึ่งสถิติเวลาที่ลดลงของนักวิ่งกลุ่มขาแรงนี้ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับวงการวิ่งของไทย ที่งานบางแสน21 ซึ่งเป็นสนามแข่งขันระดับมาตรฐาน ได้มีส่วนช่วยในการพัฒนานักวิ่งไทยให้มีพัฒนาการ ยกระดับขีดความสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นได้”

นางนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจของการกีฬาแห่งประเทศไทย คือ การส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนากีฬาเป็นเลิศเพื่อพัฒนาบุคลากรกีฬาให้ประสบความสำเร็จระดับชาติและระดับนานาชาติ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภูมิใจอย่างยิ่งการที่ประเทศไทย ได้มีสนามวิ่งอย่าง “งานฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21” ที่ได้มาตรฐานระดับโลก World Athletics Elite (Gold) Label Road Race ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในพันธกิจของการกีฬาแห่งประเทศไทย และเป็นก้าวสำคัญของวงการกีฬาวิ่งในประเทศไทยที่มีสนามวิ่งมาตรฐานระดับโลกให้นักวิ่งชาวไทยได้พัฒนาการวิ่ง เป็นอีกหนึ่งสนามในประเทศที่สำคัญที่ช่วยให้นักกีฬาอาชีพชาวไทยได้มีโอกาสฝึกฝน มีประสบการณ์ในการพัฒนาฝีเท้า เพื่อเข้าแข่งขันในสนามระดับนานาชาติต่อไป

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีนโยบายที่จะสนับสนุนกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้แข็งแรงสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งการที่งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 ได้รับรางวัลมาตรฐานระดับโลกนั้น เป็นการปลุกกระแสด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลในการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เมืองบางแสนมีศักยภาพและความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่ สามารถรองรับผู้มาเยือนได้เป็นจำนวนมาก การจัดงานครั้งล่าสุดในปี 2563 มีการประเมินตัวเลขผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม 10,000 คน ทำให้มียอดเงินสะพัดในพื้นที่บางแสน ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท นับว่าบรรลุอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ที่มุ่งหวังให้งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 เป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวให้กับบางแสน สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีได้เป็นอย่างดี

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า งานวิ่งมาราธอน นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ทาง สสปน. ให้ความสำคัญ จากแนวโน้มการเติบโตในระดับโลกของงานวิ่งถนน ซึ่งเป็นเมกะอีเวนท์ที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก และยังมีผู้ติดตาม รวมถึงผู้เกี่ยวข้องเดินทางมาร่วมงานมากมาย ทำให้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล และงานที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก อย่างงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 จะเป็นแม่เหล็กอย่างดี ในการดึงดูดนักวิ่งจากต่างประเทศ ที่ชื่นชอบการร่วมงานที่มีมาตรฐานสูง เข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น โดยนักวิ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก และมักจะเดินทางเป็นกลุ่มกับครอบครัว หรือเพื่อน ซึ่งจะทำให้อยู่ในพื้นที่ประเทศไทยนานขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะเป็นกลุ่มที่กลับมาซ้ำบ่อยครั้ง เชื่อว่างานวิ่งมาราธอนระดับมาตรฐานโลก จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

นพ.ภัทรภณ อติเมธิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดและกีฬา รพ.สมิติเวช สุขุมวิท – ผู้อำนวยการทางการแพทย์ ประจำงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน 21 กล่าวว่า ฝ่ายการแพทย์ฯ ของงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 เป็นทีมแพทย์ที่มีความเข้าใจในการดูแลนักวิ่ง เพราะเป็นทีมแพทย์ที่ทำงานร่วมกับงานวิ่งมาโดยตลอด เรามุ่งเน้นการดูแลในเรื่องอุบัติเหตุของนักวิ่ง ในกรณีเกิดการบาดเจ็บระหว่างการวิ่งและหลังวิ่ง และอุบัติเหตุฉุกเฉิน ภายในงานเราได้เตรียมและซักซ้อมทีมแพทย์ พยาบาล อาสาสมัครแพทย์ และทีมกู้ภัย ในการรับมือดูแลเหล่านักวิ่งที่เข้าร่วมแข่งขัน นอกจากนี้เราได้จัดตั้ง Medical Centre มาไว้ที่บริเวณแสนสุขฮอลล์ พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานและทันสมัย ตามมาตรฐาน World Athletics Elite (Gold) Label Road Race มาไว้เตรียมรับมือดูแลนักวิ่งในกรณีเคสฉุกเฉิน ดังนั้น ขอให้นักวิ่งทุกคนมั่นใจว่า งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 จะคงความสนุกที่ควบคู่ไปกับความปลอดภัยแน่นอน

ส่วนผลการแข่งขัน เจ้าบิ๊ก-ณัฐวุฒิ อินนุ่ม ทำเวลาเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 1:11:40 ชั่วโมง รั้งตำแหน่งโอเวอร์ออลชาย ครองแชมป์สนามนี้เป็นสมัยที่ 4 และที่ 2 เข้าเส้นชัยตามมาติดๆ ด้วยแฝดน้อง ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม ด้วยเวลา 1:11:57 ชั่วโมง ที่ 3 ได้แก่ วิรัตน์ วัยดารา เข้าเส้นชัยเวลา 1:16:16 ชั่วโมง ฟากน่องเหล็กหญิงอย่าง ลินดา จันทะชิต คว้าแชมป์สมัยที่ 2 เข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 1:24:57 ชั่วโมง พร้อมครองตำแหน่งแชมป์โอเวอร์ออลฝ่ายหญิง ตามมาด้วยที่ 2 ปารียา สนเส็ม เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:26:15 ชั่วโมง และที่ 3 อรอนงค์ วงศร เวลา 1:26:47 ชั่วโมง