หลังจากเปิดตัวแนะนำอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมากับ Mazda รุ่นพิเศษ ภายใต้ชื่อ Mazda Carbon Edition ถึง 4 รุ่น ประกอบด้วย Mazda 2, Mazda 3, Mazda CX-3 และ Mazda CX-30 ซึ่งในรอบนี้ Mazda จัดให้สื่อมวลชนได้พิสูจน์สมรรถนะ Mazda รุ่นพิเศษทั้ง 4 รุ่น รูปแบบการขับขี่ ใช้งานจริงๆ ทั้ง ทางด่วน การจราจรที่คับคั่งในเขตชุมชน จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่บางแสน จังหวัดชลบุรี รวมระยะทางไปกลับกว่า 200 กม.
สำหรับ Mazda 2 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู มาพร้อมความแตกต่างอย่างมีสไตล์ สะท้อนความสปอร์ทไม่ซ้ำใครด้วยกระจกมองข้างสีดำตัดกับโทนสีเข้มภายนอก ภายในตกแต่งพิเศษด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วย Wireless Apple CarPlay® พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) มอบความสนุกในทุกกิจกรรมและเป็นตัวเองได้อย่างไม่ซ้ำแบบใคร ราคาจำหน่าย 669,000 บาท
เส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว พร้อม LED Projector และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Signature (Daytime Running Lamp)
ไฟท้ายเป็นแบบครึ่งวงกลม ยังใส่กันชนท้ายใหม่ที่เพิ่มความเรียบหรูตามแนวคิด KODO design เจเนอเรชันใหม่
ภายในห้องโดยสารดีไซน์โดดเด่น พิถีพิถัน และใช้วัสดุเกรดพรีเมียม ตกแต่งพิเศษด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy ทั้งยังติดตั้งจอใสแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้าในระดับสายตาของผู้ขับ (Active Driving Display) หรือ Head-Up Display และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift) พร้อม Drive Selection Switch เลือกขับขี่โหมด Sport เมื่อต้องการเร่งแซง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง
Sports Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย พร้อม Drive Selection Switch เลือกขับขี่โหมด Sport เมื่อต้องการเร่งแซง
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง
Mazda 2 ไม่พลาดทุกการติดต่อผ่านเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Mazda Connect รองรับ Android Auto™ (สำหรับ Android เวอร์ชัน 10 สามารถเชื่อมต่อได้ทันที) และ Wireless Apple CarPlay® ที่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญบนสมาร์ทโฟนได้ โดยแสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ ในตำแหน่งที่สะดวกสบายต่อการใช้งาน พร้อมมอบความสะดวกสบายไปอีกขั้นกับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
พนักพิงเบาะหลังแยกปรับพับ 60:40 พร้อมปุ่มพับเบาะในฝากระโปรงท้าย (60:40) เพิ่มความสะดวกและพื้นที่บรรจุสัมภาระ
สำหรับ Mazda 2 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv-G 1.3 (สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร) 93 แรงม้า ที่ 5,800 รตน. แรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม. หรือ 123 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รตน. ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร (ผลการทดสอบตามมาตรฐานยุโรป UN R101 Combine Mode) ซึ่งผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5
และยังมี Skyactiv-D 1.5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร
G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ Skyactiv-Vehicle Dynamics พัฒนาต่อยอดจากระบบ GVC ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับ ควบคู่ไปกับการเบรคที่เหมาะสม ทำให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ ผู้ขับแก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้ง และออกจากโค้งได้อย่างนุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไป/มาของผู้โดยสาร
I-Activsense เทคโนโลยีความปลอดภัยอีกขั้นใน Mazda 2 ที่ช่วยเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ให้มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง และทุกสถานการณ์การขับขี่
RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมไฟกะพริบเตือน ที่กระจกมองข้างขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุุกับรถที่กำลัง เคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง
ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลังและอยู่ในจุดที่ผู้ขับ อาจมองไม่เห็น
ส่วนเรื่องราคา Mazda 2 Carbon Edition ราคา 669,000 บาท (สี Machine Gray (46G) เพิ่ม 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่นอื่นให้เลือกอีก รุ่น 1.3 E ราคา 546,000 บาท 1.3 C ราคา 599,000 บาท 1.3 S LEATHER ราคา 659,000 บาท 1.3 SP ราคา 690,000 บาท และ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล XDL ราคา 799,000 บาท