บางแสน ชลบุรี

16595.jpg

‘โรงเรียนบ้านแสนสุข’ โมเดลความสำเร็จ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน

วันอาทิตย์ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

“ยังจำภาพวันแรกที่ก้าวมาในโรงเรียนบ้านแสนสุขแห่งนี้ เมื่อ 5 ปีก่อนได้ดีจากโรงเรียนที่เกือบร้างใกล้ปิดตัว มีนักเรียนเพียง 39 คน เป็นเด็กไทย 7 คน นอกนั้นเป็นเด็กกัมพูชา มีครูแค่ 4 คน สภาพอาคารถูกทิ้งร้าง พื้นที่รกร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ โรงเรียนถูกลืมจากผู้คนในหมู่บ้าน เพราะคนในพื้นที่ไม่มีใครเรียน มีแต่เด็กกัมพูชา ขนาดโรงเรียนอยู่ปากซอยแท้ๆ แต่ไม่มีคนรู้จัก ทุกคนบอกว่าโรงเรียนยุบไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้หมดกำลังใจ กลับยิ่งอยากพัฒนาที่นี่ให้ดีขึ้น จากวันนั้นถึงวันนี้โรงเรียนบ้านแสนสุขได้พัฒนาแบบพลิกฝ่ามือทั้งระบบการเรียนการสอน การเรียนรู้นอกห้องเรียน และการฝึกอาชีพ จากความตั้งใจที่จะให้ที่นี่กลายเป็นโรงเรียนในใจชุมชน” บรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศจ.สระแก้ว บอกอย่างภูมิใจ

จากการที่โรงเรียนมีทั้งคลองล้อมรอบ ดินดำ น้ำดี ผอ.บรรจรงค์ จึงน้อมนำศาสตร์พระราชามาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการที่นำเข้ามาเป็นต้นแบบโครงการเพื่อการพัฒนาคือ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” โดยส่งเรื่องขอสมัครไปยังมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท แม้จำนวนนักเรียนจะไม่เข้าเกณฑ์ แต่ด้วยความตั้งใจจริงที่ต้องการให้การเลี้ยงไก่ไข่ เป็นทั้งตัวช่วยด้านภาวะทุพโภชนาการในเด็ก และเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เข้ากองทุนพัฒนาโรงเรียน จึงพยายามผลักดันจนสำเร็จ มูลนิธิฯ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟได้เข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่สำหรับเลี้ยงไก่ไข่ 100 ตัวเมื่อปี 2562 ทำให้มีแหล่งโปรตีนที่สำคัญเป็นอาหารกลางวันให้กับนักเรียน และจำหน่ายเป็นสวัสดิการให้กับชาวชุมชน โดยมีเจ้าหน้าที่สัตวบาลของซีพีเอฟมาให้ความรู้ ให้คำปรึกษาในการเลี้ยงและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการและการสุขาภิบาล

ที่นี่เน้นการเรียนรู้ที่สอดคล้องวิถีชีวิตชนบทมีการพัฒนาคุณภาพนักเรียนด้วยกิจกรรมเสริมทักษะชีวิตเป็นหลัก ผ่านแหล่งเรียนรู้ครบวงจรทำให้ “ผลิตได้ขายเป็น เห็นคุณค่า ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”เน้นการฝึกสอนพื้นฐานอาชีพที่นักเรียนนำไปต่อยอดใช้ได้ในชีวิตประจำวันและอนาคตได้ ควบคู่กับการสร้างครูรุ่นใหม่ที่เข้าใจเด็ก เข้าใจผู้ปกครอง เป็นครูพันธุ์ใหม่ที่มีจิตวิญญาณเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ทุกวันนี้เงินในการพัฒนาโรงเรียนเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของครูและนักเรียนทุกคน โรงเรียนมีรายได้วันละ 1,000 บาท นำมาจ้างครูและบูรณะโรงเรียน นักเรียนมีทุนเรียนฟรี ทั้งอาหารรถรับส่ง และเสื้อผ้าโรงเรียนจัดให้ทุกอย่าง ทำให้พวกเขา“สุขทุกที่ เพราะที่นี่ แสนสุข”

วันนี้โครงการเกษตรทั้งหมดภายใต้ “โคกหนองนาโมเดล” ดำเนินการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สามารถต่อยอดสู่ “ร้านกาแฟโรงเรียนบ้านแสนสุข” ที่เป็นแหล่งฝึกสอนอาชีพให้กับน้องๆ นักเรียน ขณะที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โรงเรียนยังนำผลผลิตจากโครงการเกษตรไปให้ผู้ปกครองใช้ปรุงอาหารให้กับเด็กนักเรียน เพื่อให้เด็กๆ ไม่มีปัญหาทุพโภชนาการ และยังแบ่งปันผลผลิตใส่ตู้ปันสุข และทำอาหารแจกให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน ผู้ที่ตกงาน รวมทั้งเด็กชายขอบชาวกัมพูชา ที่มารับอาหารช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้โรงเรียนบ้านแสนสุขจึงได้รับการยอมรับและถูกยกให้เป็น “ครัวของชุมชน” สมกับการเป็นโรงเรียนที่เป็น Best Practice ได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับประถมศึกษาขนาดเล็ก ประจำปี 2562 และรางวัลชนะเลิศระดับเหรียญทอง รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. OBEC AWARDS ผู้มีผลงานดีเด่นประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ด้านบริหารจัดการยอดเยี่ยม ระดับประถมศึกษาขนาดกลาง นักเรียนโรงเรียนบ้านแสนสุขจึงเต็มไปด้วยความสุข เพราะมีวิชาพึ่งพาตนเองได้ติดตัวกันทุกคน และยังภูมิใจที่ได้เป็นผู้ให้และผู้ถ่ายทอดความรู้ ให้กับผู้ที่สนใจจากทั่วประเทศที่เข้ามาศึกษาดูงาน ที่สำคัญ “แสนสุข โมเดล” ของโรงเรียนบ้านแสนสุข ถือเป็นตัวอย่างของความยั่งยืนในการสร้างความมั่นคงทางอาหารที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยึดหลักความพอเพียง สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ที่ต้องการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าถึง “ไข่ไก่” โปรตีนคุณภาพดี ที่จะช่วยลดภาวะทุพโภชนาการแก่เด็กและเยาวชน และสร้างแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและชุมชนได้
อย่างแท้จริง

เรื่องล่าสุด