บางแสน ชลบุรี

564000008889601.jpg

เปิดปุ๊บมาปั๊บ! มิจฉาชีพฉกทรัพย์นักท่องเที่ยวจอดรถบริเวณชายหาดบางแสน ได้มือถือรวดเดียว 8 เครื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ศูนย์ข่าวศรีราชา – เปิดปุ๊บมาปั๊บ! มิจฉาชีพโผล่หาดบางแสน ฉกทรัพย์ท้ายรถกระบะนักท่องเที่ยวได้มือถือรวดเดียว 8 เครื่องมูลค่ารวมกว่า 60,000 บาท ผู้เสียหายพ้อเพิ่งเปิดหาดจึงอยากพาครอบครัวเที่ยวสุดท้ายหมดสนุก

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (2 ก.ย.) พ.ต.ท.ไพศิลป์ แก้วสีขาว สารวัตร (สอบสวน) สภ.แสนสุข ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ว่าถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินที่เก็บไว้ภายในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผจ 2885 นครสวรรค์ ซึ่งจอดอยู่บนถนนเลียบชายหาด ช่วงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หลังรับแจ้งจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ

พบผู้เสียหายคือ นายสรุเดช จุลนาก อายุ 20 ปี บอกว่าตนเองและสมาชิกในครอบครัวรวม 18 คน ได้เดินทางมาจาก อ.ศรีราชา เพื่อเล่นน้ำทะเลบางแสน และได้เก็บกระเป๋าที่มีทรัพย์สินไว้ภายในกล่องเก็บของที่อยู่ภายในรถ โดยมีทรัพย์สินประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 8 เครื่อง รวมเป็นมูลค่ากว่า 60,000 บาท และเงินสดอีกจำนวน 1,200 บาท แต่สุดท้ายถูกคนร้ายขโมยไปจนเกลี้ยง


ขณะที่ น.ส.ชมพู่ นากตระกูล อายุ 43 ปี แม่ของผู้เสียหายบอกว่า หลังทราบข่าวว่าคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี ได้ประกาศคลายล็อกพื้นที่ชายหาดบางแสนและเปิดให้เข้าพักผ่อนได้จนถึงเวลา 20.00 น.จึงได้พาทั้งลูกและหลานมาเที่ยว ซึ่งขณะพากันลงเล่นน้ำตนเองได้นำกล่องเก็บทรัพย์สินลงจากรถไปยังชายหาดด้วย

แต่ในช่วงที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านลูกและหลานซึ่งเดินกลับมาเอาเสื้อผ้าที่รถได้เผลอวางกล่องเก็บทรัพย์สินไว้บริเวณท้ายรถกระบะ ก่อนจะพากันข้ามถนนไปใช้บริการห้องอาบน้ำ จนทำให้เจอเหตุการณ์ที่ทำให้หมดสนุกไปตามๆ กัน

“ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวชายหาดบางแสนบ่อยครั้งนัก จึงอยากฝากถึงคนร้ายว่าก่อนจะลงมือทำอะไรขอให้คิดถึงคนอื่นว่าเขาเดือดร้อนหรือไม่โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่เป็นแบบนี้” น.ส.ชมพู่ กล่าว


ด้าน นางน้อย มีมาก ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ตนเองนั่งขายของอยู่บริเวณดังกล่าวและได้เห็นว่ามีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงินมาเพียงคนเดียว และได้จอดรถจักรยานยนต์บริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเดินไปเปิดท้ายกระบะและหยิบกระเป๋าสะพายสีดำจากรถคันดังกล่าวไปใส่ไว้ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของตนเอง ก่อนขี่รถออกไปอย่างรวดเร็ว

โดยในครั้งแรกคิดว่าชายคนดังกล่าวมาด้วยกันกับเจ้าของรถยนต์กระบะจึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูเหตุการณ์จึงรู้ว่าเป็นคนร้าย

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

เรื่องล่าสุด