ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เวลา 13.00 น.วันที่ 7 ต.ค.65  ที่ สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี นายปิยะณัฐ์  สุกยัง ทนายความเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ของ ทนายความ รณรงค์ แก้วเพชร์ พร้อมด้วยนางสาว รสสุคนธ์  รุ่งเรือง ทนายความนางสุนันท์ สุวรรณ มารดานำ นายนันทศักดิ์  สุวรรณ หรือชาย อายุ 20 ปี อดีต นิสิต ม.บูรพา คณะมนุษย์ศาสตร์ ปี 3 ผู้ต้องหา เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.กรวัฒน์  หันประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.แสนสุข และ พ.ต.ท.ไพศิลป์ แก้วสีขาว รอง ผกก.ส.สภ.แสนสุข ในข้อหา ร่วมกับดาราดัง นายอธิคุณ โชติธนัสปิติ หรือ เคนลี Take Me Out ฉ้อโกงทรัพย์ โดยมี นางสาวฐิดาพร (นามสมมุติ) เพื่อนผู้หญิงของนาย นันทศักดิ์ แจ้งความไว้ที่ สภ.แสนสุข เมื่อก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ วันนี้ ซึ่งเป็นวันสอบปากคำ ตามหมายเรียกของ สภ.แสนสุข เป็นนัดแรก นายนันทศักดิ์ ให้การปฎิเสธ พร้อมเล่าให้ผู้สื่อข่าวว่า  ก่อนหน้านี้ ประมาณเดือน เมษายน ปี 2564 ตอนที่ ตนเป็น นิสิต ม.บูรพา ปี 3 ชอบเล่นเกมป๊อกเกอร์ออนไลน์ ซึ่งตั้งกลุ่มเล่นกับเพื่อนๆ ไปแข่งกับกลุ่มอื่นๆ ในโซเชียล ต่อมา นายเคนลี แชตเข้าไปในข้อความส่วนตนเฟสบุ๊คว่า อยากจะสนับสนุนส่งเสริมให้ตนและเดื่อนๆ ไปแข่งป๊อกเกอร์ออนไลน์ระดับโลก จะมีทั้งชื่อเสียงและหากชนะจะได้เงินรางวัลมหาศาล

ต่อมาไปคุยกับเพื่อน ๆ จึงเห็นด้วยว่า จะร่วมแข่งขันตามที่นายเคนลีบอก พอตอบตกลง นายเคนลี พร้อมผู้ร่วมขบวนการของเขา ก็ออกพิษสง โดยครั้งแรก ให้ตนสมัครเสียเงินไป 2,000 บาท จากนั้นก็ต้องโอนเงินไปเปิดบัญชีธนาคาร ครั้งละหลักพันก่อน แล้วขยับเป็นหลักหมื่น หากไม่ส่งไปเพิ่มเติม ก็ไม่สามารที่จะร่วมแข่งขันได้ พวกตนและเพื่อนๆ จึงเชื่อใจ ส่งไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตน ต้องไปยืมเพื่อนคนอื่นและมารดาที่อยู่ จ.สุรินทร์ กว่า 1.5 ล้าน และนางสาว ฐิดาพร เพื่อนก็อยากแข่งขันก็ให้เงินมาโอน 7 ล้าน และยังถูกนายเคนลีข่มขู่ จนต้องโอนเงินไปให้อีก 8 ล้านบาท  โดยส่งเงินไปตั้งแต่เดือน เม.ย.-ต.ค.64 

ต่อมา ตนและเพื่อนเห็นว่า น่าจะถูกนายเคนลีและพวก หลอกต้มตุ๋นเงินที่ให้โอน เพราะไม่ได้ร่วมแข่งขันสักที จึงขอยกเลิก และขอเงินคืนทั้งหมด นายเคนลี บอกว่าเลิกจะไม่ได้เงินคืน เพราะชื่อของตนและเพื่อนผู้ร่วมทีม เข้าไปอยู่ในเว็ปพนันออนไลน์ ซึ่งหากถูกเปิดเผยก็จะถูกตำรวจไอทีจับกุม เพราะผิดกฎหมาย ในข้อหาร่วมกันเปิดเว็ปพนันออนไลน์ ทำให้ตนกลัว เพราะถูกข่มขู่ต่าง ๆ นานา ทั้งขู่ฆ่า โดยจะใช้ปืนยิง และนายเคนลี ยังให้พวกในกลุ่มของเขา สลับกันโทรขู่ฆ่าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ทั้งตนและเพื่อน ทำให้นางสาวจิดาพร ซึ่งเป็นลูกคนรวย ต้องกลัว จึงโอนเงินไป 15 ล้านดังกล่าว

ต่อมา เมื่อขอเลิกไม่ได้เงินคืน นางสาวจิดาพร เข้าใจว่า ตนร่วมกับกลุ่มนายเคนลี หลอกฉ้อโกงทรัพย์ดังกล่าว จึงมาแจ้งความไว้ที่ สภ.แสนสุข ทั้งๆ ที่ตนพยายามบอก นางสาวฐิดาพร ไปแล้วว่า ไม่ได้ร่วมกับนายเคนลี แต่ตนก็ยังถูกฉ้อโกงและถูกข่มขู่ฆ่ามาโดยตลอด จนกระทั่ง จังต้องลาออกจาก นิสิต ม.บูรพา เพราะกลัวจะถูกฆ่าดัวที่ นายเคนลีข่มขู่

นายนันทศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ มาปฏิเสธ และให้การดังกล่าว และขอแจ้งความ นายเคนลี กับพวกร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ตนและเพื่อนๆ อีกด้วย และข้อหาอื่นจะตามมาอีก

นางสาว รสคุคณธ์ ทนายความ กล่าวว่า จากกรณีที่ นายชาย หรือนันทศักดิ์ ถูกแจ้งความข้อหา ร่มกับนายเคนี ฉ้อโกง ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งจับ วันนี้ พานายชาย มาให้ตำรวสอบสวน เพื่อสาวข้อเท็จจริง และตัวการจริง ซึ่ง นายชายให้การปฏิเสธ เพราะเป็นผู้เสียหายด้วย ไม่ใช่ร่วมฉ้อโกดงดังกล่าว

นาย ปิยะณัฐ  สุกยัง ทนายความเครือข่ายรณรงค์เพื่อความยุติธรรมของ ทนายความ รณรงค์ แก้วเพชร กล่าวว่า หลังจาก นางสุนันท์ พร้อม นายชาย ได้เข้าขอความช่วยเหลือ จากทนาย รณรงค์ ว่า นายชาย ไม่ได้ร่วมกับนายเคนลี กระทำการฉ้อโกงทรัพย์ นางสาว จิดาพร เพื่อนที่เข้าใจว่า นายชายร่วมกับนายเคนลี จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.แสนสุข วันนี้ จึงพานายชาย มาตามหมายเรียก ก็ให้การ จากนั้นประมาณกว่า 1 ชม. ออกมา พร้อมจะแจ้งความดำเนิน นายเคนลี พร้อมพวก ที่ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ นาย ชาย ดังกล่าวอีกด้วย  นอกจากนี้ยังสืบทราบว่า นายเคนลี พาภรรยา ออกไปอยู่ประเทศฟิลิปปินส์

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่