บางแสน ชลบุรี

Dtbezn3nNUxytg04aiKAImMQrjy9PHOuY7F0Z3cjN4lbkY.jpg

สืบนครบาลรวบ เซียนฟลุ๊คพ่อค้ากำมะลอ ตุ๋นเช่าพระเครื่องออนไลน์ ก่อเหตุเพียบ

สืบนครบาลรวบเซียนฟลุ๊ค พ่อค้ากำมะลอ ที่โพสต์หลอกเช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มออนไลน์ต่างๆ เริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2560 มีหมายจับ 9 หมาย มีผู้เสียหายจำนวนมาก คุมตัวส่ง สน.สมเด็จเจ้าพระยา ดำเนินคดี

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.และผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเคยถูกคนร้ายชื่อ “เซียนฟลุ๊ค” มีพฤติการณ์ก่อเหตุสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ เข้าไปโพสต์หลอกเช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มต่างๆ กว่า 50 กลุ่ม พื้นที่อีสานตอนใต้ โดยโพสต์ประกาศเช่าบูชาพระเครื่องส่งพระชื่อบัญชี “ชรัณ มุกธวัตร” และ ชื่อบัญชี “Charun”, ชื่อบัญชี “Pat Pat”, ชื่อบัญชี “Pattara”, ชื่อบัญชี “Watpa” ก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท
วันที่ 12 มี.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.

ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายภัทระ (สงวนนามสกุล) หรือ ฟลุ๊ค อายุ 25 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ จ.356/2565 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ ภายในซอยวัดร้าง บ้านกุดแห่ ถ.ชยางกูร ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องหาหลบมาพักอาศัย

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา รับว่า เรียนจนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 โดยขณะนั้นอายุประมาณ 19 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพระเครื่องใหม่สายภาคอีสานใต้ เคยมีเฟซบุ๊กสำหรับโพสต์ประกาศเช่าบูชาพระเครื่องส่งพระให้ลูกค้าจริง ชื่อบัญชี “ชรัณ มุกธวัตร” มีเครดิต มีคนติดตาม มีรายได้จากการปล่อยเช่าบูชาพระเครื่องกว่าเดือนละ 100,000 ถึง 200,000 บาท/ต่อเดือน แต่เนื่องจากติดเล่นเสียการพนันตามบ่อนวิ่งไพ่ป๊อกวิ่งในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถมีเงินมาหมุนทำการเช่าซื้อขายพระได้ จึงใช้เครดิตการเช่าซื้อขายพระที่ตนพอมีชื่อเสียง ทำการหลอกเช่าบูชาพระเครื่องกับลูกค้าที่สนใจในกลุ่มเฟซบุ๊ก อาทิ กลุ่ม “สุดยอดวัตถุมงคลหลวงปูแสง ญาณวโร”, กลุ่ม “พระเครื่องหลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุน”, กลุ่ม “ครูบากฤษดา” เป็นต้น

เมื่อมีลูกค้าเริ่มทราบข่าวการถูกตนโกง ก็จะเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก โดยใช้วิธีการสลับเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเดิมจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ หรือสลับใช้นามสกุลภาษาอังกฤษขึ้นก่อนชื่อ หรือใช้ชื่ออื่นๆ ที่สื่อความหมายถึงวัด เช่น ชื่อบัญชี “Charun” , ชื่อบัญชี “Pat Pat”, ชื่อบัญชี “Pattara”, ชื่อบัญชี “Watpa” ทั้งนี้ ช่วงใดที่ตนเล่นพนันจนมีเงินก้อนพอใช้ ก็จะหยุดโกงเพื่อให้เรื่องซา และกลับมาทำใหม่อีกเช่นเดิมวนไป ที่ผ่านมาโดยเฉลี่ย มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเดือนละประมาณ 20 ราย มีรายได้จากผู้เสียหายที่หลงเชื่อรายละ 5,000 ถึง 400,000 บาท ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5,000,000 (ห้าล้านบาท) เงินที่ได้จากการก่อเหตุรับว่า นำไปใช้จ่ายในชีวิตและเล่นพนันตามบ่อนวิ่งไพ่ป๊อก

จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลประวัติคดี ในฐานข้อมูล จำนวน 9 คดี ประกอบด้วย

(1) ปี 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ / สถานะหลบหนี
(2) ปี 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนฯ” ท้องที่ สภ.เมืองขอนแก่ง / สถานะควบคุมตัว
(3) ปี 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนฯ” ท้องที่ สภ.แสนสุข / สถานะหลบหนี
(4) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” ท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี / สภานะควบคุมตัว
(5) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ท้องที่ สน.สายไหม / สถานะอยู่ระหว่างหลบหนี
(6) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ท้องที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา / สถานะหลบหนี
(7) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกง ตัวการการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) ที่มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ท้องที่ สภ.ชัยบาดาล / สถานะควบคุมตัวถอนหมายจับ
(8) ปี 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกง” ท้องที่ สน.ธรรมศาลา สถานะ / อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี
(9) ปี 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” ท้องที่ สภ.เมืองราชบุรี / สถานะอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบันมิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้ในสติการโอนเงิน หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

เรื่องล่าสุด