Site icon เว็บไซต์บางแสน

ศึกชิงที่ดิน สปก. ปู่ยิงหลานเขยบาดเจ็บ หลังทะเลาะบาดหมางนานนับปี สุดท้ายเข้ามอบตัว

d9c4b01599e25f308cb3ddaad007057a724ea631a701c6eb4ee67946148246cd.jpg

ศึกชิงที่ดิน สปก. ปู่ยิงหลานเขยบาดเจ็บ หลังทะเลาะบาดหมางกันมานานนับปี สุดท้ายเข้ามอบตัว ผู้การฯตราดสอบปากคำด้วยตัวเอง

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม  2565  พ.ต.ท.อาทิตย์  สอทา  พนักงานสอบสวน  สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจาก อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือเขตห้วยแร้ง อ.เมืองตราดว่า มีเหตุยิงกันที่ซอยแสนสุข  หมู่ 10 ต.ห้วยแร้ง  อ.เมืองตราด   หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชา

       ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 20/2 หมู่ 10 ต.ห้วยแร้ง มีสวนสับปะรดอยู่หน้าบ้าน พบร่องรอยต่อสู้  รอยเลือดหยดที่พื้น  และพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 นัด นอกจากนี้ยังพบรองเท้าของผู้ก่อเหตุตกอยู่ 1 ข้าง

 

       ต่อมา พ.ต.ท.ประเสริฐ  ฤทธิราช  รอง ผกก.ป.พร้อม ร.ต.อ.ไชยา สนั่นเมือง  เดินทางมายังที่เกิด เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนร้อยเวรประจำวันจะมาเก็บรายละเอียดที่เกิดเหตุ

           นางอังคณา  จันทร์ดี  อายุ 43 ปี ที่เป็นแม่ยายของนายอิศรา  ปินาถา อายุ 33 ปี ผู้บาดเจ็บ  เล่าให้ฟังว่า  เมื่อเช้าตอนที่ตนเองกำลังล้างจานอยู่ในครัวได้ยินเสียงปืนดัง ปัง จำนวน 2 ครั้ง จึงได้วิ่งออกไปดูพบลูกเขยกำลังวิ่งกลับเข้าบ้านตนเองพร้อมมีรอยบาดแผลที่โคนขวา และมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด จึงให้วิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำและให้ล็อคประตู และตนเองก็ล็อคประตูหลังบ้านอีกชั้นเพื่อป้องกันคนร้ายตามมาซ้ำ

   นางอังคณาเล่าอีกว่า  ต่อมาทราบว่า คนที่ยิงคือนายโอรส  กุลนารา อายุ 56 ปี เป็นญาติฝ่ายสามีโดยลูกสาวและลูกเขยเรียกว่าปู่ นายโอรสพยายามมาจีบตนเองหลังสามีเสียชีวิตไป 2 ปีแล้ว แต่ตนเองไม่เล่นด้วย  ส่วนตนเองหลังสามีเสียชีวิตก็ไม่ได้มีแฟนใหม่  บ้านและที่ดินทำกินทั้งหมดก็ตกเป็นของลูกสาวและลูกเขย ทั้งสองคนก็ช่วยกันทำมาหากิน  แต่มักจะถูกนายโอรสพูดว่าโกงที่ดิน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง จนลูกเขยทนไม่ไหวถามนายโอรสให้หยุดพูดได้แล้วซึ่งเป็นเหตุให้ มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุถูกนายโอรสยิงในครั้งนี้

ด้านนางสาวสิริยาลักษ์ พันธุ์พิริยะ ภรรยานายอิศราที่เดินทางมาที่โรงพยาบาลตราด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ เข้าไปทำงานที่สวนสับปะรดใกล้บ้านและจะออกไปซื้อกาแฟ พบกับปู่(นายโอรส) ที่บาดหมางกันมานานนับปี  และไม่ชอบหน้ากันมานานแล้ว เกิดมองหน้ากันแล้วทะเลาะต่อสู้ทำร้ายร่างกายกัน ด้วยความไม่พอใจ ทำให้อีกฝ่ายคือ ปู่เดินกลับไปบ้าน กลับมาอีกทีก็ไล่ยิงสามีของตนจนหมดโม่ แล้วก็บรรจุกระสุนใหม่อีก สามีตนหนีกลับบ้าน โดนกระสุนปืนเข้าที่ขาขวา ส่วนสาเหตุผิดใจบาดหมางกัน เพราะพอพ่อเสียชีวิต ปู่คิดจีบแม่ของตนเอง แต่ตนและสามีขัดขวาง ทำให้ปู่ไม่ชอบหน้า บาดหมางมาประมาณ 1-2 ปีแล้ว ส่วนปมขัดแย้งที่ดินก็มีส่วนเหมือนกัน ทั้งที่เป็นที่ดินของตัวเอง ส่วนปู่ลั่นไกจนหมดโม่แล้ว ก็หลบหนี

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องที่ดินสปก.ที่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บทำกินอยู่ เป็นที่ดินของนางสาวสิริยาลักษณ์ ที่ทำกินต่อจากพ่อ ซึ่งเป็นสวนมังคุดที่อยู่ด้านข้างบ้านพัก รวมทั้งที่ดินด้านหน้าบ้านปลูกสับปะรด และเป็นที่ดิน สปก.มีการซื้อขายกันด้วยปากเปล่าจากเจ้าของเดิม โดยมีการทำกินร่วมกันแต่เมื่อสามีของนางอังคณาเสียชีวิต  นายโอรสพยายามจะเข้ามาจีบมาเป็นภรรยาเพื่อจะครอบครองที่ดินดังกล่าว แต่นางอังคณาไม่เล่นด้วยทำให้นายโอรสมีปากเสียงทะเลาะกับนางอังคณาและหลานๆ อยู่บ่อยครั้งจนเกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้น

ต่อมาในเวลา 10.00 น.นายโอรส กุลนารา ได้เดินทางมามอบตัวกับพ.ต.อ.นิพล คงเกียรติก้อง ผกก.สภ.เมืองตราด ซึ่งได้ทำการสอบปากคำในเบี้องต้น ซึ่ง พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราดได้ให้ความสนใจในคดีนี้ จึงเดินทางมาสอบปากคำนายโอรส กุลนาราด้วยตนเองที่ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนยิงนายอิสรา ปินาถาเอง ด้วยความโกรธเคืองทั้งเรื่องที่ดิน และเรื่องส่วนตัวมานานแล้ว 

หลังจากจบการสอบปากคำแล้ว พ.ต.ท.อาทิตย์  สอทา  พนักงานสอบสวน  สภ.เมืองตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจนำตัวนายโอรส กุลนารา ไปทำแผนประกอบคำสารภาพที่สถานที่เกิดเหตุ โดยมีนายชัยยันต์ เรืองขจิต กำนันตำบลห้วยแร้ง ชาวบ้าน และญาติพี่น้องของผู้ได้รับบาดเจ็บเฝ้าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ

Exit mobile version