จากกรณีพรรคการเมืองคู่แข่งเริ่มจับประเด็นดีล การเมืองที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาจจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยพยายามออกมาปฏิเสธ เพื่อลดแรงกดดัน ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำ พรรค พปชร.ระบุในทางการเมืองมีความเป็นไปได้

พท.กล่อมคนกาฬสินธุ์ทำให้ชีวิตดีขึ้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ก.พ. ที่หน้าที่ว่าการ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวที ปราศรัยใหญ่เป็นวันที่ 3 ที่ จ.กาฬสินธุ์ ต่อเนื่องจาก จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค รวมถึง ส.ส.ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนางบุญรื่น ศรีธเรศ นายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่และใกล้เคียง มีประชาชนรอรับฟังปราศรัยเต็มลานหน้าที่ว่าการอำเภอ โดยนพ.ชลน่านปราศรัยว่า ถ้า พท.ได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์หายหมด จะพลิก ฟื้นเศรษฐกิจ ใช้นวัตกรรมมาเพิ่มรายได้เกษตรกรเป็น 3 เท่าใน 3 ปี ดินดำ น้ำดี สินค้ามีราคา สนับสนุนกรรมสิทธิ์ ปุ๋ยราคาถูกลงสนับสนุนเกษตรกร จะลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้มีชีวิตที่ดีขึ้นให้เลือกทั้งคนทั้งพรรคทั้งแผ่นดิน

“อุ๊งอิ๊ง” โปรยแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้

ด้าน น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า ดีใจมากๆ ที่ได้มาอีสาน มาที่กาฬสินธุ์แล้วนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เคยมาเปิดงานผ้าภูไท นานาชาติ ยังมีอยู่ทุกวันนี้ แต่วันนี้ประชาชนรายได้ยังไม่พอเลี้ยง ครอบครัว ประชาชนมีปัญหาเรื่องที่ดินทำกินอยู่มาก พรรค พท.คิดนโยบายมาแก้ปัญหาด้วย 4 ขั้นตอน ด้วยการพิสูจน์สิทธิด้วยวิทยาศาสตร์ ใครไม่มีที่ดินทำกินจะจัดหาให้ และแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค ให้ประชาชนถือครองที่ดินอย่างเท่าเทียมและสุดท้ายเอาที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้มาแจกให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่ดินทำกิน เราจะไม่ได้แก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้าแต่จะแก้ปัญหาระยะยาวให้มีกินตลอดชีวิต และขอย้ำ พรรคเพื่อไทยมีพรรคเดียวขออย่าแบ่งใจไปพรรคอื่น ให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์

“เต้น” ขู่ไม่เลือกเราได้ “ลุงตู่” อยู่ยาว

ขณะที่นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราต้องได้แลนด์สไลด์ เพื่อให้พ้นกลโกงทั้งหลาย ไม่ว่าบัตรเขย่ง หรือแจกใบแดงเท่าไหร่ เพื่อสกัดไม่ให้ ส.ส.ของเราได้เข้าสภา ไปโหวตนายกฯเป็นรัฐบาล ดังนั้น จึงขอให้เลือกเพื่อไทย ยกจังหวัด ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม อยู่ต่อไม่ได้อยู่แค่สองปี แต่ ส.ว.เตรียมแก้กติกาให้ได้อยู่ยาว ถ้าไม่เลือกเพื่อไทยคนกาฬสินธุ์จะเป็นหนี้อีกต่อไป

ย้ำ พท.ตั้งเป้ารัฐบาลพรรคเดียว

จากนั้น น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีนิด้าโพลสำรวจความคิดเห็นชาว จ.ชลบุรี ระบุพร้อมโหวตให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ว่า ต้องขอบคุณมากๆ ดีใจ ส่วนกรณีผลโพลออกมาพรรค พท.มีคะแนนนำ ทุกครั้งนั้น ตรงนี้ถือเป็นกำลังใจและข้อมูลที่สำคัญสำหรับพรรคเรา เพราะจุดประสงค์ของการแลนด์สไลด์ คือต้องการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ตรงนี้ทำให้เรารู้สึกใกล้ความจริง จึงอยากให้พี่น้องช่วยกันสนับสนุนกันต่อไป เพราะพรรค พท.ตั้งใจจะทำให้พี่น้องจริงๆ เมื่อถามว่า ที่มีการประกาศว่าจะต้องกวาดแลนด์สไลด์ แต่ก่อนหน้านี้มีคนหาเสียงจับจองพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆกาฬสินธุ์อยู่เคียงข้างเรา มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยกลับมาก็ขอให้พี่น้องเลือกเราอีกครั้ง เพราะเราเคยแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้จริงมาแล้ว คิดว่ากลับมา เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อีกครั้งแน่นอน ตอนนี้เรามี นโยบายเพิ่มที่จะเจาะลึกในเชิงปัญหาทุกจังหวัด

ไม่สนคนทอดไมตรี ขอจับมือ ปชช.

เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า พรรค พปชร.มีโอกาสจับมือกับพรรคเพื่อไทยหลังการเลือกตั้ง นายณัฐวุฒิกล่าวแทรกว่า เป็นปกติทางการเมืองหากพรรคไหนที่มีกระแสตอบรับจากประชาชนสูงมากๆ ก็จะมีพรรคอื่นแสดงความพร้อมที่จะจับมือด้วย แต่พรรค พท.วันนี้ เราเดินหน้าโดยยึดเป้าหมายแลนด์สไลด์เป็นสำคัญ ไม่มีเจรจา ไม่มีดีลลับ ดีลเปิดเผยกับพรรคใดทั้งสิ้น เราเปิดดีลกับประชาชนเป็นหลัก ถ้าเราแลนด์สไลด์จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ระดมทุนผ่านบล็อกเชนอุ้มชาวนา

ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่ตลาดอู้ฟู่ อ.เมืองขอนแก่น พรรค พท.จัดเวทีปราศรัยใหญ่ เป็นเวทีที่ 9 ในทริปลงพื้นที่ต่อเนื่อง 3 วัน มีประชาชนมาฟังปราศรัยจนล้นตลาด พร้อมชูป้ายรูปแกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดย น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า เรามีหนี้สินมากมายใน 8 ปีที่ผ่านมา ถ้าพรรค พท.เป็นรัฐบาลเราจะหมดหนี้ ระดมทุนต่างชาติผ่านบล็อกเชนมาช่วยเหลือชาวนาไทย ไม่ต้องเป็นหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรฯอีก เอาเงินเขามาเป็นกองทุนให้เกษตรกรนำไปประกอบอาชีพ คืนผลผลิตทางการเกษตรกลับไปให้เขา เริ่มจากข้าวขยายไปข้าวโพด มันสำปะหลัง เราคิดตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรคที่คนโจมตีว่า 30 บาทตายทุกโรค วันนี้ไม่มีใครล้มเราได้ รถไฟความเร็วสูงมีคนบอกให้ไปทำถนนลูกรังก่อน ถ้าคิดเล็กๆแบบนี้จะแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างไร เพื่อไทยคือคำตอบของอนาคตลูกหลาน จึงขอให้เลือกพรรค พท.ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์

“อ้น” อวย “ลุงตู่” เอาจริงปราบโกง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนติดตามการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 และชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ว่า ตอบการอภิปรายของฝ่ายค้านได้ชัดเจนทุกประเด็น ทำให้เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์เอาจริงเอาจังปราบปรามการทุจริตและการกระทำผิดกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ที่พรรค พท.หาว่าตอบไม่ตรงคำถาม ปล่อยปละละเลยทุนจีนสีเทาความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ปราบปรามมาเฟียสีเทาทุกรูปแบบ ไม่ว่าตู้ห่าวและทุนสีเทาที่เพื่องฟูมากี่ปีแต่ถูกจับดำเนินคดีในรัฐบาลนี้

“ชัยวุฒิ” ดันแก้ ก.ม.ดึงส่วยเป็นภาษี

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายพรรค พปชร.เกี่ยวพันปัญหาทุนสีเทาว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลเอาจริงเอาจัง จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ทุนสีเทาเป็นปัญหามานานหลายสิบปี กลุ่มนี้จะเข้าหาผู้มีอำนาจติดสินบนให้คุ้มครอง รัฐบาลยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแน่นอน พปชร.มองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหานอกจากการปราบปรามอย่างจริงจังแล้วบางเรื่องอาจจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปลี่ยนส่วยให้เป็นภาษี เพื่อสกัดกั้นช่องทางเรียกรับส่วยจากผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ธุรกิจบริการบางประเภท ผับ บาร์ ควรเปิดขายได้มากกว่าเที่ยงคืน เช่นเดียวกับต่างประเทศ พรรคจะพิจารณาเพื่อจัดทำเป็นนโยบายแก้ปัญหา เช่น การแก้กฎหมายที่ล้าสมัย ให้ตรงกับหลักสากล เพื่อให้ธุรกิจไปได้เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ได้เงินมาพัฒนาประเทศ ส่วนยาเสพติด การค้ามนุษย์ ต้องปราบปรามจริงจัง อาจต้องแก้ไขกฎหมายให้มีโทษหนักขึ้นอีก จะแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้อีกทางหนึ่ง

“ธนกร” ฟุ้งคนเมืองคอนรอรับ “ประยุทธ์”

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทันทีที่ชาวนครศรีธรรมราชทราบข่าวว่านายกฯจะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 20 ก.พ. ต่างสื่อสารมาว่าจะไปต้อนรับนายกฯ ดีใจที่นายกฯมองเห็นความเดือดร้อนและให้ความสำคัญชาวนครศรีธรรมราช ความทุกข์ของคนนครศรีฯที่ต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากจะได้รับการแก้ไขเร็วที่สุด เหมือนที่นายกฯมักพูดเสมอว่าปัญหาของประชาชนรัฐบาลต้องเข้าไปแก้ไขโดยเร็วที่สุด เท่าที่กฎหมายเอื้ออำนวยให้ นอกจากนี้ยังจะรับฟังความ ต้องการของคนใต้ด้วยว่าต้องการให้รัฐบาลวางโครงสร้างพื้นฐาน และสนับสนุนงบฯช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้อย่างไรอีกด้วย

ดึง “ยาวอหะซัน-ซูสารอ” ยึด 3 จชต.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค รทสช.ว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช.ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส พูดคุยกับนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ทาบทามเข้าร่วมงานกับ รทสช. โดยนายกูเซ็งตอบรับคำเชิญพร้อมวางตัวผู้สมัคร ส.ส.จ.นราธิวาส ลงตัวเรียบร้อย ส่วน จ.ยะลา จ.ปัตตานี อาทิ เขต 3 นายอรัญชัย ซูสารอ เขต 4 นายยุซรี ซูสารอ ลงตัว รวมถึง จ.สตูล ทั้งนี้ นายเอกนัฏกล่าวว่า ได้ตระกูลยาวอหะซันและตระกูลซูสารอ มาร่วมงาน นับว่าเสริมกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น บวกกับกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ทำให้มั่นใจว่า รทสช.จะปักธงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้มากแน่นอน ยิ่งทำให้มั่นใจว่า รทสช.จะผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯได้อีกสมัย

พช.แก้น้ำท่วมขุดตะกอนสร้างเกาะ

ที่โรงเรียนวัดศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนคร ศรีอยุธยา พรรคเพื่อชาติ (พช.) จัดประชุมสมาชิกพรรคเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายปวีย์ภัทร วัฒนศิริเศรษฐ โฆษกพรรค พช. กล่าวว่า พรรคมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร หารายได้เข้าประเทศ เช่น เกษตรพลัส ส่งเสริมพื้นที่การเกษตรเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ส่งเสริมปุ๋ยอินทรีย์และธนาคารเมล็ดพันธุ์เพื่อลดต้นทุน จ.พระนคร ศรีอยุธยามีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นศูนย์กลางการค้าของอินโดจีน เป็นจุดแข็งทำให้เกิดอยุธยาโมเดลส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดแก้ปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ตื้นเขิน ตะกอนทับถมไม่น้อยกว่า 3.5 เมตรนานกว่าร้อยปี หากขุดลอกจะได้พื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่ยาวตลอดลำน้ำเจ้าพระยา จากอ่าวไทยถึง จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยล้านลูกบาศก์เมตร นำดินตะกอนมาถมสร้างเป็นเกาะบริเวณอ่าวไทย สร้างเป็นเมืองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็น Software Island แสนไร่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็น Green and Clean City

“โอ๋” ยัน ภท.ส่ง “หนู” ชิงเดี่ยวนายกฯ

ที่โรงเรียนชุมชนกระนวน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเวทีปราศรัยนโยบายและแนะนำตัวนายชัชวาล โนนใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 3 ช่วงหนึ่งนายศักดิ์สยามระบุว่าที่พรรค ภท.ต้องการอาสาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากผลสำรวจที่ไลน์ทูเดย์ทำเรามีโอกาส ตัวเลข 33% จะได้ ส.ส.เข้าสภาฯจำนวนมาก สิ่งที่ต้องย้ำกับประชาชนให้ชัดเจน ไม่ให้ถูกบิดเบือนคือ ถ้าเลือกผู้สมัครจากพรรค ภท.เป็น ส.ส.แล้ว มีคนเดียวเท่านั้นในพรรคที่จะได้เป็นนายกฯคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ไม่มีคนอื่น ต้องบอกกับพี่น้องให้ชัด เดี๋ยวจะมีบางคนมาบอกว่าเลือก ภท.แล้วไปได้คนอื่นมาเป็นนายกฯไม่มีหรอก ต้องอนุทินคนเดียว

“ธรรมนัส” ร่วมบุญเปิดกรุพระสมเด็จ

ที่พุทธมณฑลสมโภช 750 ปี เมืองเชียงราย ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย และพุทธศาสนิกชนจัดงานครบรอบ 3 ปี การก่อตั้ง สมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนา จ.เชียงราย- ยุวพุทธสัมพันธ์และเปิดกรุใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) 150 ปี มีพระพุทธิญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงาในฐานะเจ้าคณะ จ.เชียงราย เป็นประธาน และมีคณะสงฆ์ทั่วทั้งจังหวัดร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อม น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภริยา ร่วมพิธี เปิดกรุออกมาพบ พระสมเด็จจำนวนหนึ่งที่อยู่ใต้ฐานพระ โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาร่วมพิธีงานสำคัญ สนใจในพระพุทธ ศาสนาตั้งแต่ก่อนจะมาเล่นการเมือง ได้เดินสายตระเวน ทำบุญตามวัดต่างๆสม่ำเสมอ มีโอกาสนั่งสมาธิปฏิบัติ ธรรม เพราะเชื่อมั่นในพุทธธรรม แม้เมื่อมาทำงาน การเมืองยังทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส เชื่อว่าธรรมะจะรักษาผู้ประพฤติธรรม

มั่นใจผลงานท้าชนชิง 8 จว.เหนือ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ รับผิดชอบดูแลภาคเหนือ กล่าวถึงความมั่นใจในการทำพื้นที่ว่า ช่วงที่เป็น รมช.เกษตรฯ แก้ปัญหาให้ประชาชนบ่อย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่ทำกิน ปัญหาแหล่งน้ำและการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะลำไย ด้วยผลงานที่ตนแก้ปัญหาให้พี่น้อง 8 จังหวัดภาคเหนือ มั่นใจว่าจะชนะใจได้ ไม่กังวลกับคำว่าแลนด์สไลด์ 8 จังหวัดภาคเหนือ พรรค พปชร.จะส่งผู้สมัครครบทุกเขตไม่ใช่แค่ จ.เชียงรายหรือภาคเหนือ แต่พรรค พปชร.มีโอกาส เห็นได้จากการเลือกตั้งที่ จ.พะเยา ปี 2562 พรรค พปชร.เป็นรองมาก แต่สามารถชนะได้ จึงมั่นใจ ว่าใน 8 จังหวัดภาคเหนือ เรามีโอกาสเช่นเดียวกัน เพราะพรรคมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะพี่น้องฐานรากได้รับการดูแลของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากดูแลพื้นที่ภาคเหนือแล้ว พรรคยังมอบหมายให้ช่วยดูยุทธศาสตร์การเมืองในการ หาเสียงเลือกตั้งทั่วทั้งประเทศ จะไปตามพื้นที่ต่างๆ

หลัง ลต.เป็นไปได้ 2 ค่ายจับมือตั้ง รบ.

เมื่อถามว่า ในพรรคมีขุนพลหลายคนเริ่มขัดแย้ง เห็นได้จากการวางตัวผู้สมัครที่ จ.ชัยภูมิ เป็นห่วงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือหลังจากหลาย พรรคไม่ได้ส่งผู้สมัคร ฉะนั้นเมื่อผู้สมัครหลายคนตามผู้บริหารพรรคกลับมา พปชร.ไม่มีที่จะลง เป็นเรื่องปกติต้องคุยกัน เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคพปชร.จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรค พท. เป็นไปได้มาก น้อยแค่ไหน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนมักพูดเสมอว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ความเป็นไปได้หลังจากการเลือกตั้งอาจเป็นไปได้ สาระสำคัญอยู่ที่ว่าหลังการเลือกตั้งแล้ว พรรค พท.จะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง พรรค พปชร.และพรรคอื่นจะได้กี่ที่นั่ง เมื่อถามถึงโอกาสที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้า พรรค พปชร.จะได้เป็นนายกฯ มีแค่ไหน ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคที่ถูกเสนอชื่อมาเป็น แคนดิเดตนายกฯ หากได้จำนวน ส.ส. เกิน 25 คน ขึ้นไป ก็ถือว่ามีโอกาสเช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชารัฐเกิน 25 ที่นั่งอยู่แล้ว ถือว่า พล.อ.ประวิตรมีโอกาส ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีนายหิมาลัย ผิวพรรณ รับผิดชอบดูแล พื้นที่ภาคเหนือและเป็นคนคุ้นเคยกับ ร.อ.ธรรมนัส การแข่งขันจะดุเดือดหรือไม่นั้น การเมืองทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือ อยู่ที่ความเชื่อมั่นของคนเป็นผู้นำ ยอมรับว่า ไม่ง่ายแต่คงไม่ดุเดือด ตนกับนายหิมาลัยไม่มีอะไรกัน เป็นเพื่อนรักกัน โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่เพิ่งเข้ามาสมัยนี้ที่ดึงมาช่วยเหลือการเมืองทางภาคใต้

“เศรษฐกิจไทย” จ่อแจ้งความ “โรม”

ร.อ.ธรรมนัสยังกล่าวชี้แจงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พาดพิงเชื่อมโยง กับกลุ่มทุนจีนสีเทาในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า ดูเหมือนนายรังสิมันต์จะไม่เข้าใจการอภิปรายตามมาตรา 152 ที่เปรียบเสมือนตั้งกระทู้ ถามรัฐมนตรี แต่กลับมาอภิปรายตนที่เป็นเพียง ส.ส. ไม่เป็นไร เพราะนำข่าวเก่ามาอ่านในที่ประชุมสภาฯมากกว่า บางเรื่องผ่านกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ส่วนตัวรู้จักคนเยอะอยู่แล้ว แต่ได้เคยชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนสีเทา หรือการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมาย เมื่อถามว่าจะมีผลต่อพรรค พปชร.หรือไม่ เพราะพาดพิงทั้ง ร.อ.ธรรมนัส รวมไปถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุววรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้า พรรค พปชร.ด้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พาดพิงถึง หลายคนในรัฐบาล ในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะ ใครก็มาถ่ายรูปด้วยได้ เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจ เมื่อถามว่า จะดำเนินการทางกฎหมายกับนายรังสิมันต์หรือไม่ ฐานกล่าวหาให้เสียหาย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ส่วนตัวคงไม่ได้ดำเนินคดีอะไร แต่ทราบว่าสมาชิกของพรรค เศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะตัวแทนแต่ละจังหวัดกำลังจะดำเนินคดีกับนายรังสิมันต์ เช่นเดียวกับบุคคล ภายนอกที่ถูกพาดพิงจะดำเนินคดีเกือบทุกราย

โยงจีนเทาแค่ดิสเครดิตการเมือง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการระบุว่าบริษัทเครือข่ายทุนจีนจดทะเบียนในที่ตั้งเดียวกับบริษัทรักษาความ ปลอดภัย ที่ภรรยา ร.อ.ธรรมนัสเป็นเจ้าของ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นการกล่าวหาโดยไม่ได้ดูรายละเอียดที่มาที่ไป บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ที่เลขที่ 888 อโศก-ดินแดง เป็นอีกบริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด การจัดตั้งบริษัทก็ผ่านมาหลายปีมากแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มองว่าเป็นการดิสเครดิตก่อนการหาเสียงเลือกตั้ง ทราบอยู่แล้วว่าตนเป็นบุคคลสำคัญของพรรคทางภาคเหนือ ผลงานที่ผ่านมาแทบจะไม่เคยแพ้สนามเลือกตั้งไหนเลย เรื่องนี้จึงน่าจะเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า

รทสช.แจงยิบปมที่ทำการพรรค

เมื่อเวลา 12.30 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เผยแพร่เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ กล่าวหาให้ประชาชนเข้าใจว่าที่ทำการ รทสช.เกี่ยวพันกับทุนสีเทา เนื่องจากอาคารนั้นเกี่ยวพันกับ ส.ว.ท่านหนึ่ง ที่ผู้อภิปรายพยายามกล่าวหาว่า ส.ว.เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเอกสารชี้แจ้งมีเนื้อหาระบุว่า ส.ว.ท่านนั้นไม่ได้เป็นสมาชิก รทสช. ไม่มีความ เกี่ยวข้องใดๆกับ รทสช. การกระทำของ ส.ว.ท่านนั้น จึงไม่ เกี่ยวข้องกับ รทสช.และไม่ใช่การกระทำของ รทสช. ทั้งทางตรง ทางอ้อม ส่วนการใช้อาคารสถานที่เป็นที่ทำการ รทสช.ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพราะเพิ่งมาเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 โดยไม่มีตำแหน่งบริหารใดๆใน รทสช.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้อาคารสถานที่ใดเป็นที่ทำการ รทสช. ในขณะที่ รทสช.ใช้อาคารสถานนี้เป็นที่ทำการพรรคมาตั้งแต่เดือน ส.ค.65 การที่มี ส.ส.นำเรื่องนี้ไปอภิปรายเพียงสร้างเรื่องราวการอภิปรายผูกโยง ส.ว.ท่านนั้นกับ รทสช.และ พล.อ.ประยุทธ์มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่เป็นการกระทำอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ ส.ส.ที่ดีพึงกระทำ

ขู่ฟ่องัด ก.ม.เล่นงานผู้อภิปราย

เอกสารของ รทสช.ยังระบุอีกว่า รทสช.เป็นเพียงผู้เช่าใช้อาคารสถานที่เป็นที่ทำการพรรค โดยปกติทั่วไปผู้เช่ากับผู้ให้เช่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันหรือที่ไม่มีการกระทำใดที่กระทำร่วมกันต้องมีความรับผิดชอบหรือร่วมรับผิดในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง ส.ว.ท่านนั้นถูกกล่าวหาเป็นผู้กระทำผิดจริงหรือไม่ ย่อมไม่เกี่ยวข้องกับ รทสช. ต้องรับผิดหรือต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาร่วมด้วย ยิ่งไปกว่านั้นช่วงที่ รทสช.เช่าไม่เคยปรากฏข่าวหรือข้อเท็จจริงในทางสาธารณะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปตามข้อเท็จจริงที่ ส.ส.ผู้นั้นหยิบยกขึ้นมาอภิปราย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ รทสช.จะทราบล่วงหน้าหรือคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่า ส.ว.ที่เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในอาคารดังกล่าว จะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในเวลาต่อมาหรือในอนาคตได้ การที่ ส.ส.พยายามผูกโยงข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจหรือคิดว่า รทสช. และ พล.อ.ประยุทธ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำอันเป็นความผิดต่อกฎหมายร้ายแรง เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามจริยธรรมของนักการเมืองและตามกฎหมายอย่างร้ายแรง รทสช.จะพิจารณา การดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

“รังสิมันต์” ลุยยุทธการโรยเกลือใส่ รบ.

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์การตรวจสอบรัฐบาลหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปว่า หลังการอภิปราย ในพรรคเดี๋ยวจะหารือกัน เพื่อดำเนินตามยุทธการโรยเกลือให้รัฐบาลแสบ ส่วนในระยะยาวต้องมีนโยบายแก้ปัญหาทั้งปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกองทัพต่อไป เมื่อถามว่าผลสำเร็จจากการอภิปรายครั้งนี้ เพิ่มกระแสให้พรรคก้าวไกลแรงพอฝ่ากระสุนดินดำทำให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลได้เป็น ส.ส.แค่ไหน นายรังสิมันต์ ตอบว่า ถ้าการซื้อเสียงคือทุกอย่าง เราไม่ได้เกิดมาถึงวันนี้แน่นอน เชื่อว่าวันนี้สังคมการเมืองเจริญก้าวหน้า อย่าละเลยว่าคนมองไม่เห็นเรื่องนี้ และเชื่อว่าการเติมกระสุนยิงกันสนั่นตามชุมชน พื้นที่ต่างๆไม่ได้หมายความว่าประชาชนที่รับจะเลือก เราไม่กลัวพรรคการเมืองที่ใช้วิธีการดังกล่าว ดังนั้น เรามีโอกาส มากในการเลือกตั้งครั้งนี้ อยากให้ประชาชนให้โอกาสพรรคก้าวไกลเข้าไปเปลี่ยนประเทศไทย

“พิธา” ขอเป็นตาอยู่ศึกบ้านใหญ่-เก่า

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ริมหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายวรท (เบ๊นซ์) ศิริรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 1 นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี เดินใช้โทรโข่งประกาศขอโทษที่มารบกวนวันหยุดแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และนโยบายพรรค ก.ก. โดยนายพิธากล่าวว่า จ.ชลบุรีมั่นใจ พรรค ก.ก.มาเป็นอันดับ 2 ในโพลปี 62 พรรคอนาคตใหม่เรามาอันดับ 2 ได้มา 2 แสน 7 หมื่นคะแนน ได้ ส.ส.เขต 3 คน มีแจ็คผู้ฆ่ายักษ์คือ ส.ส.จรัส คุ้มไข่น้ำที่เอาชนะนายอิทธิพล คุณปลื้ม มาได้แล้ว เราทำมาได้แล้ว ปีนี้จะทำให้ได้อีก สถานการณ์การเมือง จ.ชลบุรี เวลานี้ เปรียบเหมือนตาอินกับตานา มีปริศนาบ้านใหญ่อยู่พอสมควร เท่าที่ทราบข่าวเราพยายามทำงานหนัก เราจะเป็นตาอยู่ของคนชลบุรีที่เอาพุงปลาคืนมาให้ชาวชลบุรี ที่เคยไว้วางใจเราในอดีตอนาคตใหม่ แต่กระแสมาดีมาอันดับ 2 โพลออกมาเมื่อเช้า วันที่ 19 ก.พ. เราเอาจุดแข็งของพรรค ก.ก.ตอนนี้ โดยเฉพาะเรื่องแรงงาน เรื่อง SME การท่องเที่ยว การทำมาหากินของคนตัวเล็ก สิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาการรับการตอบรับของภาคตะวันออก หลายภาคเราจะเป็นตาอยู่ชิงพุงปลามาให้ได้ ขณะที่ตาอินกับตานายังทะเลาะกันอยู่

คนชลบุรีเทใจเลือก พท.-อุ๊งอิ๊ง

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนชลบุรีเลือกพรรคไหน” ระหว่างวันที่ 7-14 ก.พ.จากผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีสิทธิเลือกตั้งใน จ.ชลบุรี 1,100 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงบุคคลที่คนชลบุรีจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯวันนี้ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 31 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) ร้อยละ 18.82 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) และร้อยละ 17.36 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) ส่วนพรรคที่คนชลบุรีมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.เขตร้อยละ 38.82 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 19.55 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 16.18 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 4.73 พรรคเสรีรวมไทย และร้อยละ 4.55 ยังไม่ตัดสินใจ ขณะที่พรรคที่คนชลบุรีมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 38.82 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 19.55 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 16.09 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 5.55 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 5.00 พรรคเสรีรวมไทย

“จุรินทร์” เปิดศูนย์พระโขนง-บางนา

เมื่อเวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขตพระโขนง-บางนา โดยนายจุรินทร์กล่าวตอนหนึ่งว่า แม้การเลือกตั้งคราวที่แล้วไม่ได้ผู้แทนฯ แต่ไม่ได้แปลว่าชาวกรุงเทพฯทิ้ง ปชป.อย่างน้อยคนที่มาลงคะแนนให้พรรคเฉพาะในเขตกรุงเทพฯทั้งหมดมี 478,000 คะแนน หรือประมาณครึ่งล้าน แม้ไปนับรายเขตเราจะไม่ได้ ส.ส. แต่เสียงที่หนุนเนื่องจากชาวกรุงเทพฯที่มีต่อ ปชป.ยังคงอยู่เสมอมา การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ปชป.ไม่ได้รับเลือกตั้งแต่มาเป็นลำดับที่ 2 ส.ก.ได้ถึง 9 ที่นั่งมาที่ 2 อีก 7 ที่นั่ง นี่คือสิ่งที่กล้าพูดว่าพี่น้องนอกจากยังไม่ทิ้ง ปชป.แล้ว สัญญาณการเลือกตั้งเที่ยวหน้าพวกเรามั่นใจว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯจะต้อนรับ ปชป.อบอุ่นขึ้น

3 มี.ค. เปิดพรึบผู้สมัคร กทม.33 เขต

นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้ ปชป.พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งทั้งตัวบุคคล ผู้สมัคร นโยบายและระบบการบริหารจัดการ ปชป.ได้ประกาศกรอบยุทธศาสตร์สำคัญ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” เดินหน้าพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เข้มแข็งต่อไป ได้ประกาศไปแล้ว 8 นโยบาย เกี่ยวพันกับชาวกรุงเทพฯ อาทิ นโยบายประกันรายได้สำหรับเขตกรุงเทพฯชั้นนอก นโยบายสร้างธนาคารชุมชน นโยบายนมโรงเรียนฟรี 365 วัน นโยบายอินเตอร์เน็ตฟรี 1 แสนจุด ส่วนตัวบุคคลเตรียมพร้อมแล้ว จะเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 33 คนวันที่ 3 มี.ค. สำหรับเขตบางนา- พระโขนง ประชาธิปัตย์ ส่งนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เหรัญญิกพรรค เป็น ส.ส.มาแล้ว 2 สมัย

“เจ๊หน่อย” ไปนนท์จบหนี้นอกระบบ

ที่ตลาดท่าทราย จ.นนทบุรี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมนายวรวุฒิ ศรีนนท์ นายอนุศักดิ์ เรืองชู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า จากการพูดคุยกับพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ขายพบว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงฝืดเคืองต่อเนื่องโดยเฉพาะกำลังซื้อของประชาชนที่หดหายไป นับแต่เกิดสถานการณ์โควิดกินเวลากว่า 3 ปี ทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือคนตัวเล็ก คนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นหนี้นอกระบบ ต้องแบกรับดอกเบี้ยมหาโหดถึงร้อยละ 20 ต่อเดือน ต่างจากนักธุรกิจรายใหญ่ที่เข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำได้เพียงร้อยละ 2-3 ต่อปี นี่คือความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น พรรคจึงมีนโยบายกองทุนเครดิตประชาชนหรือกองทุนคนตัวเล็ก มอบเครดิตให้ประชาชนล้างหนี้นอกระบบ ช่วยคนไทยหลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน พรรคไทยสร้างไทยจะไม่แจกบัตรคนจนแต่จะแจกบัตรเครดิตประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้อุ่นใจว่า เมื่อเดือดร้อนเงินเมื่อใด ไปกู้เงินจากกองทุนเครดิตประชาชนหรือกองทุนคนตัวเล็กได้ทันทีและกู้ได้ตลอดชีวิตหากไม่เบี้ยวหนี้

“สมชัย”แฉ กกต.เล่นกลคดียุบพรรค

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงระเบียบใหม่ของ กกต.จะทำให้เกิดการยุบพรรคการเมืองเเบบติดเทอร์โบว่า ระเบียบใหม่ปี 2566 เพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. มีการออกระเบียบ อาทิ ระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง หนา 248 หน้า แอบเอาการรายงานผลเลือกตั้งเเบบไม่เป็นทางการที่เคยอยู่ในหมวด 1 ออกทั้งหมวด การตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีความผิดตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ข้อหาหนักเกี่ยวกับการยุบพรรค อาทิ ล้มล้างการปกครอง รับเงินต่างชาติมีคนครอบงำพรรค พรรครับเงินจากแหล่งเงินทุนที่มีความเป็นไปได้ว่าเป็นแหล่งเงินทุนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น เงินบ่อน เงินค้ายาเสพติด ระเบียบเก่าไม่ระบุขั้นตอนกรอบเวลาไว้ แต่ระเบียบใหม่ ถ้ามีคนร้องหรือมีความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้รีบเสาะหาข้อเท็จจริงให้เสร็จใน 7 วัน เพื่อเสนอนายทะเบียนว่าจะรับเรื่องหรือโยนทิ้ง เมื่อรับแล้วให้ฝ่ายสำนักงานตรวจสอบข้อเท็จจริง 30 วัน ถ้าทำไม่ทันขยายได้ครั้งละ 30 วัน ถ้าเห็นว่ามีมูลผิดจริงให้เสนอที่ประชุม กกต. และมีผลบังคับอีกว่าที่ประชุม กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 30 วัน มีกรอบ 7 วันข้างหน้า มีกรอบ 30 วันท้าย และถ้า กกต.เห็นว่าผิดส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ

ไม่แฟร์เลือกปฏิบัติรับเงินเทา 3 ล้าน

นายสมชัยกล่าวอีกว่า กรอบเร่งรัดดังกล่าวอาจเป็นเครื่องมือให้ กกต.ทำงานได้เร็ว แต่กังวลถ้าเลือกปฏิบัติกับบางพรรคหรือบางกรณี จะนำไปสู่การยุบพรรครวดเร็วหรือเปล่า ระเบียบนี้บอกอีกว่า เรื่องที่เคยมีการร้องมาก่อนในอดีตภายใต้ระเบียบเก่า ให้ใช้ระเบียบเก่าๆไปมันประหลาด เหมือนว่าเรื่องที่ร้องในอดีตก่อนหน้าประกาศวันนี้ สมมติมีคนไปร้องว่าพรรคหนึ่ง รับเงินบริจาค 3 ล้านบาท เงินสีเทาทุนจีนแต่ร้องภายใต้ระเบียบเก่า จะใช้ระเบียบเก่าทำต่อไป แต่เรื่องใหม่ถึงจะใช้ระเบียบใหม่ไม่ค่อยถูกต้อง ไม่แฟร์ บางพรรคเคยถูกร้องรับเงินบริจาค 3 ล้านบาทในอดีต มีแนวโน้มเป็นเงินจากธุรกิจผิด กฎหมาย มีคนร้องแต่ภายใต้ระเบียบใหม่ไม่มีผลไปเร่งรัด

ยุบก่อน ลต.เทแต้ม ยุบหลังมีงูเห่า

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ประชาชนทั่วไปสงสัยว่าเหตุใดมาเกิดช่วงนี้ จะเป็นแนวโน้มการร้องเพื่อให้ยุบพรรคใดพรรคหนึ่ง กระทั่งเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่ ทำไมเรื่องในอดีตกลับไม่เร่งรัด เป็นไปได้จะเป็นเครื่องมือทำให้บางพรรคถูกยุบช่วงนี้ อาจเกิดการกลั่นแกล้ง ชาวบ้านจะมองว่าบางพรรคจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ เลยต้องใช้วิธีการเตะตัดขา ขอให้ กกต.ออกมาพูดให้ประชาชนเข้าใจเหตุผล อดีตชาวบ้านอึดอัดการใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม เอื้อประโยชน์พรรคใดพรรคหนึ่ง ไปลงโทษทำลายพรรคใดพรรคหนึ่งไม่เป็นธรรม ถ้ากรณียุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง อาจเกิดการถ่ายเทคะแนนของประชาชน เหมือนกรณีพรรคไทยรักษาชาติเป็นต้น แต่ถ้าเกิดยุบหลังเลือกตั้งแล้วจะทำให้ย้ายพรรคกันอีก ซื้อขายตัว ส.ส.เกิดงูเห่า ไม่เป็นผลดีกับการเมืองไทย

ส.ว.ขวางอีกทำประชามติแก้ รธน.

อีกเรื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 21 ก.พ.มีวาระพิจารณา เรื่องด่วน การพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบผลการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้ ครม.ดำเนินการ ตามที่คณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาญัตติดังกล่าว ที่มีนายสมชาย แสวงการ ส.ว. เป็นประธานพิจารณาเสร็จแล้ว มีเนื้อหาคัดค้านการทำประชามติการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นผู้ยกร่าง ตามที่สภาฯ มีมติเสนอมา กมธ.ให้เหตุผลว่าการทำประชามติเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรัฐ กระทบหน้าที่และอำนาจองค์กรอิสระสิทธิเสรีภาพประชาชน ดังนี้ 1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากมีประเด็นควรแก้ไข ใช้วิธีแก้ไขเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ไม่ต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เหตุผลที่ระบุถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะมีที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ถือเป็นเหตุผลสมควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขณะที่ประเด็นคำถาม ประชามติไม่ได้ระบุขอบเขตชัดเจน อาจกระทบหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว ควรกำหนดความชัดเจนที่เป็นหลักประกันว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จะตอบสนองความต้องการสังคมและสะท้อนเจตนารมณ์ประชาชน

อ้างถลุงงบฯ 7 พันล้าน–ส่อขัด รธน.

2.กมธ.เห็นว่าญัตติด่วนของสภาฯอาจขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 กำหนดให้รัฐสภามีอำนาจหน้าที่แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ อีกทั้งรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับ ส.ส.ร.ที่เป็นองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญ โดยที่รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดและการตั้งคำถามประชามติไม่ได้แสดงถึงความบกพร่องในเนื้อหาที่จำเป็นต้องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่แทนฉบับเดิม 3.การออกเสียงประชามติพร้อมกับการเลือก ตั้งทั่วไป แม้กฎหมายไม่มีข้อห้าม แต่เมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาและสถานการณ์ปัจจุบัน โอกาสเกิดขึ้นเป็นไปได้น้อย เพราะขั้นตอนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ที่จัดการเลือกตั้งและออกเสียงประชามติต้องเป็นไปตามกฎหมายที่แตกต่างกัน 4.การออกเสียงประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องออกเสียงประชามติไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ใช้ไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านบาท หากประชาชนเห็นชอบคำถามประชามติจะมีค่าใช้จ่ายยกร่างรัฐธรรมนูญอีกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เป็นภาระงบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชน

“สมชาย” อ้าง กมธ.ศึกษาเป็นกลาง

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธาน กมธ.สามัญพิจารณาญัตติขอให้สภาฯ มีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้ ครม.ดำเนินการ วุฒิสภากล่าวว่า ผลการศึกษาของ กมธ. ไม่มีการชี้นำต่อการลงมติของ ส.ว. ในวันที่ 21 ก.พ. การศึกษาของ กมธ.เป็นการศึกษาทางวิชาการที่ศึกษาอย่างรอบด้าน เป็นกลาง พร้อมให้ทุกหน่วยงานนำไปพิจารณาประกอบการจัดทำรัฐธรรมนูญในอนาคต