บางแสน ชลบุรี

163047073943

การเมือง “พลังประชารัฐสไตล์”

เห็นว่าทั้งสองฝ่ายพยายามทำการบ้านกันอย่างเต็มที่

ฝ่ายค้าน ก็ทำการบ้านมาค่อนข้างดี ในการตั้งประเด็นคำถาม ตั้งข้อสงสัย ตั้งความไม่ไว้วางใจในหลายเรื่อง ทั้งการบริหารจัดการของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลหลายๆอย่าง

ส่วนรัฐบาล ก็พยายามตอบทุกคำถาม แต่การตอบคำถามนั้น จะตอบได้ถูกใจ หรือตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่อง ข้อมูลเหล่านี้ประชาชนควรนำไปพิจารณาต่อ

รองประธาน ส.อ.ท. ยังเชื่อว่าภาพการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในช่วงเดือน พ.ค. ต้องดุเดือดขึ้นทวีคูณ ดูจากการซ้อมใหญ่ครั้งนี้ เห็นได้จากอารมณ์การใช้คำพูด หรือการใช้น้ำเสียงตอบโต้กันค่อนข้างหนัก

ทั้งหมดอยู่ที่ข้อมูลของฝ่ายค้าน หากอภิปรายโดยใช้เรื่องเดิมๆ ไม่มีเรื่องใหม่ ประเด็นใหม่ๆ ที่จะมาตรวจสอบรัฐบาลเพิ่มขึ้น ภาพของฝ่ายค้านก็จะดูจืดไป

ทำให้อภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เกิดผลอะไรขึ้นมา เหมือนเปิดข้อสอบให้ฝ่ายรัฐบาลไปทำการบ้านล่วงหน้า

แต่ถ้าฝ่ายค้านมีเซอร์ไพรส์ ที่อาจเก็บข้อมูลอุบไต๋บางส่วนไว้ แล้วไปเปิดกันตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ขอข้อมูลเด็ดๆ แค่ 2-3 เรื่อง ที่ชี้ให้เห็นชัดถึงการทุจริต การบริหารงานที่ไม่ชอบมาพากล ไม่โปร่งใส

ไอ้ที่ว่า “ปาฏิหาริย์จากฟ้า” ที่มักอยู่ข้าง “ลุงตู่” ถึงเวลานั้นมันก็ไม่แน่เหมือนกัน

แต่เอาเถอะถึงยังไง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็ประกาศย้ำเป็นรอบที่ร้อยกลางวงประชุมสภา หัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยุบสภา ไม่ลาออกเด็ดขาด

นาทีนี้ศึกนอกยังกินแกยาก แต่สนิมที่เกิดแต่เนื้อในพลังประชารัฐ นับวันยิ่งบานทะลักไปทุกที

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็แทรกเข้ามาอีก

กับปมบ้านใหญ่เมืองชลฯ ภายใต้ปีก “สนธยา-พี่น้องตระกูลคุณปลื้ม” สายเลือดแท้ๆ “กำนันเป๊าะ” เปิดศึกแตกหักกับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน อดีต “เด็กปั้นบ้านแสนสุข”

ที่วันนี้ไฮเพาเวอร์ ถึงขั้นสถาปนาตนเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว

ความจริงคนวงในรู้กันมานานแล้วว่า ขั้ว “บ้านใหญ่เมืองชลฯ” กับ กลุ่มอำนาจใหม่ “พลังเฮ้ง” ขบเกลียวกันมาหลายปี อันมาจากปัญหาการบริหารจัดการประสานผลประโยชน์

ที่บ้านใหญ่ฯยังคงการบริหารงานแบบเดิมๆ สไตล์กงสี

ขณะที่ “เสี่ยเฮ้ง” รวบรวมสมัครพรรคพวก สถาปนาตนเป็นขั้วอำนาจใหม่ ยึดคติว่า “เป็นลูกน้องพ่อ ไม่ใช่ลูกน้องลูก”

จึงไม่แปลกที่ฝ่ายหนึ่งจะถูกเปรียบเป็น “หมาก้าวร้าว” อีกฝ่ายตอกกลับด้วยวลี “แม่ทัพอัลไซเมอร์”

เป็นไปตามธรรมชาติของพรรคเฉพาะกิจ ที่รวบรวมนักการเมืองร้อยพ่อพันแม่มาไว้ด้วยกัน

สุดท้ายเรื่องนี้ต้องจบลงตรงที่ “คงต้องมีใครเป็นฝ่ายไป”

แน่นอนว่าจากผลงานช่วงที่ผ่านมา “เสี่ยเฮ้ง” เดินงานเข้าเป้าทั้งในพื้นที่เมืองชลฯ รวมไปถึงการออกหน้างัดข้อกับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า บวกแต้มเพิ่มในใจ “ลุงตู่”

ฉะนั้นฝ่ายที่ต้องไปก็น่าจะเป็นกลุ่ม “บ้านใหญ่เมืองชลฯ”

อยู่ที่ว่าจะเสี่ยงพวงมาลัยให้ ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย

หรือจะกลับไปปัดฝุ่นรื้อฟื้นฐานเดิม พลังชล.

เพลิงสุริยะ

เรื่องล่าสุด