Site icon เว็บไซต์บางแสน

ไล่ส่งคนรวยชังชาติ บิ๊กตู่ลั่นเลือกสส.ได้นายกฯ โวคนต่างปท.อยากอยู่ไทย

163047073943

“ประยุทธ์” ขนคณะลงตรวจราชการ  “สงขลา-พัทลุง” ปัดไม่มีนัยทางการเมือง โปรยยาหอมคนใต้รักจังฮู้ บอกอนาคตอยากได้นายกฯ แบบไหนอยู่ที่ประชาชนเลือก ส.ส. วอนเบาๆ เรื่องความขัดแย้ง เหน็บพวกอยากไปอยู่ ตปท.มีแต่คนรวยๆ อยากไปก็ไป แต่บ้านเกิดเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ โวคนต่างประเทศอยากมาอยู่ประเทศไทย “เพื่อไทย” ป้องอุ๊งอิ๊ง บอกมีคุณภาพคับแก้ว  อัด ปชป.กวาดบ้านตัวเองไป ไม่ต้องมาจุ้นแคนดิเดตนายกฯ พรรคอื่น

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน ที่ท่าอากาศยานทหาร  2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสงขลาและพัทลุง โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า การลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้เพื่อไปทำงาน ดูแลประชาชน ไม่ได้มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด

โดยเมื่อถึงเวลา 10.30 น. คณะ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงท่าอากาศยานกองบิน 56 จ.สงขลา โดยมี ส.ส.ภาคใต้มารอให้การต้อนรับ และเข้าพบประมาณ 30  นาทีที่ห้องรับรองสนามบิน พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน โดยส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากนั้นนายกฯ เดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว  หมายเลขทะเบียน ขน 777 สงขลา ไปยังจุดแรกในการตรวจติดตามโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อจากนั้นเดินทางไปตลาดกิมหยงเพื่อทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยมีชาวบ้านตะโกนให้กำลังใจสู้ๆ นายกฯ อยู่ต่อ และขอให้นายกฯ รักษาสุขภาพด้วย ทั้งนี้นายกฯ ได้อุดหนุนขนมลอดช่อง และยังได้กล่าวให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าว่า ขอให้เข้มแข็ง ขอให้ต่อสู้ ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนยังได้เข้ามารุมล้อมขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกพร้อมขอจับมือ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าไม่ได้ สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปลอดภัยโควิด ขอเปลี่ยนจากการให้จับมือเป็นการใช้ข้อศอกสัมผัสแทน โดยนายกฯ ยังได้สักการะองค์เทพเจ้าที่มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง พร้อมเสี่ยงเซียมซีโดยหยิบขึ้นมาได้  3 หมายเลข คือ 38, 52 และ 45

จากนั้นนายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้เอาตัวและหัวใจมาฝาก ที่ผ่านมาเรารู้อยู่แล้วว่าเจอปัญหาหลายๆ  อย่างด้วยกัน ทั้งโควิดและสงครามความขัดแย้งที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางให้พวกเราอยู่รอด  คำว่าอยู่รอดคือให้มีพอกินพอใช้ไปก่อน เราต้องเร่งสร้างรายได้ให้ประเทศ เศรษฐกิจฐานรากเหมือนที่ตลาดกิมหยง  เราต้องช่วยกัน ถ้าจะให้เปล่าไปตามหลักการมันไม่ได้ ทั้งนี้อะไรที่ทำได้จะทำให้จบให้ได้ ให้สิ้นสุดให้ได้ ก็รับฟังจากส.ส.ของเรา ตัวแทนของพวกเรา โดยจังหวะนี้ประชาชนได้ปรบมือชอบใจ พร้อมตะโกนว่านายกฯ สู้ๆ ขณะที่นายศาตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรค พปชร.ที่ยืนอยู่ข้างๆ  นายกฯ ได้ยกมือแสดงสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้ประชาชน  ก่อนก้าวไปข้างหน้าและโค้งตัวไหว้ประชาชน นายกฯ จึงแซวว่า “เฮ้ย นี่มาหาเสียงหรือเปล่าวะเนี่ย” ก่อนกล่าวอีกว่าแหย่เล่น วันนี้มีความสุข นายกฯ ไม่มีความสุขมาหลายวันแล้ว เพราะมีหลายปัญหา มีแต่ปัญหาๆ เข้ามา จึงอยากจะแก้ให้เสร็จทุกอย่าง โดยจังหวะนี้มีชาวบ้านตะโกนว่า “ลุงหล่อมากค่ะวันนี้” นายกฯ ตอบกลับว่า “เหรอ วันนี้กลับไปไม่ทานข้าวแล้ว” พร้อมบอกอีกว่าแก่จะแย่แล้ว ขณะชาวบ้านตะโกนอีกว่ารักลุงตู่ สู้ๆ นายกฯ จึงตอบกลับไปว่า “รักจังฮู้ไหม”

เลือก ส.ส.เหมือนเลือกนายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการเมืองมันก็ยุ่งอยู่อย่างนี้ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ที่ดี เป็นผู้นำที่ดี เป็นเรื่องของอนาคต ก็ลองดูแล้วกัน เพราะการเลือก ส.ส.ก็เป็นการเลือกนายกฯ เพราะนายกฯ ก็มาจาก ส.ส.เลือก มีใครเกลียดนายกฯ หรือยัง นายกฯ ก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน ตื่นมาไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลย คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรต่อ เช้านี้มีอะไร กลางคืนกลับไปบ้านต่อมีอะไร ตื่นมากลางดึกเห็นงานที่ค้างอยู่ก็นอนไม่หลับอีก แต่วันนี้จะนอนหลับแล้วล่ะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะนี้มี ส.ส.พูดขึ้นมาว่าใครอยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ปรบมือหน่อย ชาวบ้านจึงปรบมือเกรียวกราว นายกฯ จึงกล่าวว่าเดี๋ยวพรรคอื่นตกใจ วันนี้มีพรรคร่วมรัฐบาลมาด้วยกัน พรรคภูมิใจไทยก็มา นายกฯ  เป็นผู้ที่กำหนดนโยบาย และเป็นผู้ที่นำโครงการแผนทั้งหมดเข้าพิจารณาใน ครม. เรื่องที่ ส.ส.เสนอขึ้นไป ไม่ว่าจะพรรคไหนเสนอเข้ามาเข้ากระทรวง ก็ต้องทำแผนงานขึ้นมาตามขั้นตอนเพื่อเสนอเข้า ครม. เพราะฉะนั้นสำคัญที่สุดคือนายกฯ นี่แหละ สำคัญรองลงมาคือรัฐมนตรี เลือกให้ดี  ขณะที่ประชาชนตะโกนขึ้นมาว่า “เลือกลุงตู่” นายกฯ จึงตอบว่า “ตกลงเลือกลุงตู่ จะไม่ให้ผมไป จะเลือกผมอยู่คนเดียวหรอ ประชาธิปไตยก็ว่าไป” พร้อมกล่าวอีกว่า แล้วใครที่ทะเลาะกันอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องตามไป บ้านเราเยอะพอแล้ว สงครามก็ฟังไว้ดูไว้ เราต้องรักษาสมดุล

ในช่วงท้ายนายกฯ กล่าวว่า สำคัญวันนี้มีคนบางคนชอบสร้างความขัดแย้ง เบาๆ ลงหน่อย บอกลูกหลานพอแล้ว เด็กรุ่นใหม่จะคิดอีกแบบ คิดแบบคอมพิวเตอร์ที่คิดเร็ว แล้วทำไม่ได้ ต้องทำให้ได้ ผสมผสานกัน ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ คนต่างประเทศอยากมาอยู่ประเทศไทยหมด  อาหารอร่อย คนใจดี อากาศก็สบายๆ ลองไปอยู่ต่างประเทศตอนนี้หนาวตาย เพราะไม่เคยอยู่ ภาษีกี่เท่า พลังงานแพง ต้องเปิดแอร์ เปิดฮีตเตอร์ แต่คนรวยๆ ก็ช่างเขาเถอะ อยากไปก็ไป แต่นี่คือแผ่นดินเกิดที่นี่ หากินที่นี่  ตายที่นี่ นี่คือแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ของเรา

ต่อมาเวลา 14.30 น. คณะ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึง  จ.พัทลุง โดยมี ส.ส.พรรค พปชร.มาให้การต้อนรับ ก่อนที่นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด และได้ย้ำว่า สิ่งสำคัญก็คือทุกคนต้องมีความรักความสามัคคีต่อกัน เพราะคนไทยเป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงแฮชแท็ก “ปิดถนนเพื่อลุง” กรณีคณะ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ว่า ได้รับการรายงานจาก พล.ต.ต.ตานิตย์  รามดิษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ยืนยันไม่มีการปิดถนน เป็นเพียงขอความร่วมมือให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางถนนบางสาย เพื่ออำนวยความสะดวกขบวนพาเหรดที่มีการแสดงชุดโนรา 6 ขบวน ในโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงโนราสืบสานศิลป์แผ่นดินโนรา มรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 900 คน ซึ่งเป็นการแสดงของพี่น้องชาวพัทลุง ขอย้ำว่าการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกฯ แต่ละครั้ง นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้กำชับให้ส่วนราชการในพื้นที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  โดยเฉพาะการจราจรต้องไม่มีการปิดเส้นทาง

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงโนรา “สืบสานศิลป์แผ่นดินโนรา มรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12  สิงหาคม 2565 ณ ศาลากลางจังหวัดพัทลุง (หลังเก่า)  อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง โดยนายก อบจ.พัทลุงได้มอบของที่ระลึกให้นายกฯ เป็นเทริดโนราจำลองและสร้อยคอลูกปัดโนรา ซึ่งนายกฯ ได้ลองสวมใส่ ทั้งนี้ตามความเชื่อสร้อยคอลูกปัดโนราเป็นของปลุกเสกของขลังเมืองพัทลุง ที่ใครมีไว้ครอบครองจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ผีสางนางไม้ไม่กล้าเข้าใกล้

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและกำหนดนโยบายการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนของมรดกทางวัฒนธรรม ตลอดจนการนำเสนอด้าน Soft Power ซึ่งประเทศไทยมีของดีเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องอาหาร ธรรมชาติ กีฬา และเรื่องสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกหลายๆ ด้าน ขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนและพัฒนา Soft Power ของไทย โดยเฉพาะทรัพยากรที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ให้สามารถต่อยอดไปสู่การส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย จากนั้นนายกฯได้ตีโพนเปิดงาน พร้อมรับชมการแสดงโนรา ก่อนเดินทางกลับ

เศรษฐกิจไทยรดน้ำบิ๊กป้อม

ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ  ที่น่าสนใจ โดยที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน  ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และคณะ ได้นำพวงมาลัยดอกไม้เข้ากราบและรดน้ำอวยพร พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส โดย พล.อ.ประวิตรได้อวยพรให้ พล.อ.วิชญ์และ ร.อ.ธรรมนัส รวมทั้ง ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ดูแลประชาชนรวมทั้งการเลือกตั้งด้วย

ส่วนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ  กล่าวก่อนเดินทางร่วมคณะนายกฯ ลงพื้นที่ว่า ไม่มีนัยทางการเมือง และการลงพื้นที่ภาคใต้ของนายกฯ ไม่ใช่แนวคิดของตนเอง เพราะไม่มีเรื่องการเมือง ส่วนเรื่องการไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง  ยังไม่ได้คิด ยังไม่ได้เลือกอะไรเลย

“จุดยืนต้องเหมือนกันเรื่องหลักคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สถาบันหลักของชาติต้องตรงกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น ถ้าตัดสินใจเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบ” นายพีระพันธุ์กล่าวถึงจุดยืนของพรรคที่จะไปร่วม

               ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายธนกรออกมาวิพากษ์วิจารณ์คนในพรรคเพื่อไทยหนีไปต่างประเทศว่า อยากให้นายธนกรย้อนกลับไปดูกรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ  พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาบนเทือกเขาแก้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่ง พล.ต.ต.ปวีณทำหน้าที่ในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างดีที่สุด แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้มีอำนาจ จนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับผู้มีความรู้ความสามารถของพรรคเพื่อไทยและอีกหลายคนที่ต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

น.ส.ธีรรัตน์ยังกล่าวถึงกรณีคนพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) ระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคแน่นอน พร้อมออกความเห็นว่าคนในพรรคเป็นแค่เบ๊รับใช้ว่า น.ส.แพทองธารเป็นที่ยอมรับของผู้ใหญ่ในพรรคและคนในพรรค  เพราะมีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด ซึ่งดีกว่านายกฯ ที่ถูกยัดเยียดมา ประชาชนไม่ได้เลือก  ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่ได้รับการยอมรับ จนทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างในทุกวันนี้

สอน ปชป.กวาดบ้านตัวเอง

“คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพรรคอื่น ควรต้องกลับไปมองที่การอยู่รอดของพรรคตัวเองก่อนว่า จะยังเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกอยู่ไหม อยากให้ไปจัดการปัญหาในพรรคตัวเองให้ดีก่อน ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าต่อไป ไม่ต้องห่วง” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรค ปชป.โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ได้นั่งดูการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่ง น.ส.แพทองธารมีพัฒนาการทางการเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเปรียบเทียบกับตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าการเมืองใหม่ๆ น.ส.แพทองธาร ฉายแววมีบทบาทเด่นกว่า และมีหน่วยก้านทางการเมืองที่ดีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มาก จึงเชื่อว่า น.ส.แพทองธารจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยแน่นอน สมกับที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้คาดหวังและวางแผนไว้ เพราะถ้าย้อนไปดูการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทักษิณในอดีตที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นการส่งเสริมบทบาทของคนในครอบครัว วงศ์วานว่านเครือของตัวเองทั้งสิ้น”

“การสืบทอดอำนาจทางการเมือง ไม่ใช่มีเฉพาะคณะรัฐประหารเท่านั้น แต่การสืบทอดทางการเมืองภายในพรรคการเมืองก็เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน บุคคลอื่นๆ ที่อยู่ในพรรคก็เป็นได้แค่นั่งร้าน หรือเบ๊ เพื่อรับใช้และสนับสนุนคนในตระกูลชินวัตรเท่านั้น ขอจงอย่าแปลกใจเลย” นายเทพไทระบุ

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ในวันที่ 30  เม.ย.นี้ พรรคจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565  โดยพรรคจะใช้โอกาสนี้ปรับทัพเพื่อรับการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงด้วย เพราะจับสัญญาณความอ่อนแรงของพรรค พปชร.ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลได้ว่า กำลังไปต่อไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศึกภายในที่แตกร้าวมาโดยตลอด  และยิ่งชัดขึ้นเมื่อไม่มีการส่งตัวแทนลงเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ทางการเมืองว่า รัฐบาลกำลังเตรียมยุบสภาก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังชล กล่าวว่า  พรรคจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ครั้งที่ 1  วันที่ 30 เม.ย. ที่โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป และขอยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเจรจา หรือพิจารณาประเด็นการไปควบรวมกับพรรคอื่น เรายังดำเนินกิจกรรมในนามพรรคพลังชลอยู่ ไม่ได้เจรจากับพรรคใดๆ ตอนนี้ยังทำงานในส่วนของพรรคอยู่

อภิปรายช้าสุดต้นเดือน ก.ค.

ส่วนความเคลื่อนไหวของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในวันที่ 26 เม.ย.  หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมผ่านระบบซูมเพื่อกำหนดประเด็นการอภิปรายและติดตามความก้าวหน้า น่าจะได้ข้อสรุปเนื้อหาที่จะอภิปราย และรัฐมนตรีที่จะอภิปรายเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ ก่อนจัดตั้งคณะทำงานหนึ่งชุดเพื่อพิจารณาประเด็นและเนื้อหาที่จะใช้ในการอภิปราย โดยมีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เป็นประธาน และคาดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 และวาระ 3  ประมาณกลางเดือน มิ.ย. หรืออย่างช้าในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มิ.ย.แล้ว 

 “การอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะเกิดขึ้นไม่ปลายเดือน  มิ.ย.ก็ต้นเดือน ก.ค. อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาประกอบการยื่นอภิปราย คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 1-2 มิ.ย. หากกฎหมายลูกไม่ผ่านรัฐบาลก็ต้องไป โดยไม่ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล คืออายุการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะครบ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค.65 ส่วนเหตุผลที่เรานำกฎหมายลูกมาเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดช่วงเวลายื่นอภิปราย เพราะเราต้องการให้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับประกาศใช้ก่อนอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่เช่นนั้นหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองประเทศจะถึงทางตันไปต่อไม่ได้” นพ.ชลน่านกล่าว 

เมื่อถามว่า คาดการณ์ว่ารัฐบาลจะชิงยุบสภาก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่สามารถทราบได้ เป็นอำนาจของรัฐบาล หากรัฐบาลคิดไม่ดี ต้องการให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง ถ้าถึงจุดนั้นประเทศจะวุ่นวายมาก เพราะยุบสภาแล้วเลือกตั้งไม่ได้ แต่เท่าที่ฟังและรับรายงานจากวงในรัฐบาล ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ เกรงว่าจะมีปัญหาและเกิดทางตัน

นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดฮอด มีคำสั่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชดใช้ค่าเสียหาย  64 ล้านบาท หลังให้ใบส้มแก่นายสุรพล เกียรติไชยากร  อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย จากเหตุการณ์การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นต้องโทษบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ที่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับ กกต.ใช้หลักการพิจารณาเพียงแค่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ก็พิจารณาให้ใบส้มและตัดสิทธิ์การเลือกตั้งได้เลย ทั้งนี้ กกต.คงไม่มีเจตนาทำร้ายใครและไม่ได้โทษ  กกต. แต่โทษรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ กกต. จึงเห็นควรเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะยกเลิกการให้อำนาจ กกต.แบบล้นเกินในการแจกใบส้ม ทั้งที่ควรจะเป็นอำนาจของศาล.

Exit mobile version