คดีแก๊ง “นายพล” รีดเงินบ่อนพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทเข้าไคล “เสี่ยบอย” หน้าเสื่อคนสำคัญที่หนีไปอยู่สิงคโปร์ ควงเมียกลับไทย หลังเจรจาต่อรองนัดหมายกับชุดพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีหลายครั้ง เดินทางถึงดอนเมืองกลางดึก แสดงหมายจับแจ้งข้อหาคุมตัวสอบเครียดที่ สภ.คูคต ตลอดคืน จากนั้นส่งต่อให้ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี แจ้งข้อหาเดียวกันแต่ต่างกรรมต่างวาระ หลังสอบเครียด 4 ชม.รวด ให้ประกันตัวไปด้วยเงินสดคนละ 2 แสนบาท “รองโจ๊ก” เผยผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ เป็นกุญแจสำคัญดำเนินคดีกับตำรวจและพลเรือนได้อีกหลายคน เตรียมขออำนาจศาลขออนุมัติหมายจับเพิ่ม ส่วนการแจ้งข้อหาอุ้มหายเพิ่มเติมอยู่ระหว่างขอคำปรึกษาจากอัยการสูงสุด
กรณีแก๊งตำรวจร่วมกับหน้าเสื่อรีดเงินบ่อนพนันออนไลน์ตัวเลขสูงถึง 140 ล้านบาท หลังจากดำเนินการแจ้งข้อหานายตำรวจระดับนายพลลงไปหลายนาย และออกหมายจับชาวบ้านร่วมขบวนการอีกหลายคน ความคืบหน้าเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 14 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ชุดเฉพาะกิจกองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคน เข้าเมือง 2 (บก.ตม.2) เข้าควบคุมตัวนายวีระ หรือ บอย นาทรัพย์ อายุ 38 ปี และนางลัดดาวัลย์ นาทรัพย์ อายุ 35 ปี ภรรยา 2 ผู้ต้องหา ที่เป็นพลเรือนคดีแก๊ง ตำรวจรีดส่วย 140 ล้านบาท ขณะกำลังเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หลังจากเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทยด้วยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (THAI LION AIR) เที่ยวบินที่ SL-105 จากสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลาประมาณ 00.20 น.
หลังผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ บก.ตม.2 เข้าแสดงหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์ฯ ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้หวาดกลัว หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย และข้อหา แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการ หลังจากนั้นพาตัวนายวีระและนางลัดดาวัลย์ไปบันทึก จับกุมที่สถานีตำรวจย่อยท่าอากาศยานดอนเมือง สน.ดอนเมือง บริเวณชั้น 1 ติดประตู 8 ก่อนคุมตัว ผู้ต้องหาหลบผู้สื่อข่าวไปออกประตู 1 ขึ้นรถตู้ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คูคต ดำเนินการสอบปากคำ และดำเนินคดีตามขั้นตอน ระหว่างถูกควบคุมตัวขึ้นรถนายวีระเผยสั้นๆว่า ไม่ได้เรียกรับทรัพย์สินตามที่ถูกกล่าวหา ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ที่ สภ.คูคต เวลา 02.00 น. พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม.ชุดทำงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.2) นำตัวนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ และนางลัดดาวัลย์ นาทรัพย์ มาส่ง ให้พนักงานสอบสวน สภ.คูคต ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี สำหรับนายบอยถูกออกหมายเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พร้อมนางลัดดาวัลย์ ภรรยา และนายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพานี อายุ 40 ปี นายบอยถือว่าเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญเพราะมีบทบาทในคดีตบทรัพย์เจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ทำหน้าที่เป็น หน้าเสื่อช่วยต่อรองส่วย มีส่วนร่วมกับอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีอยู่ในชุดเฉพาะกิจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส. เป็นชุดที่ถูกกล่าวหาว่าปั้นพยานเท็จ เพื่อขอหมายค้นและหมายจับจากศาลไปรีดเงินจากนายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ เจ้าของเว็บไซต์ พนันออนไลน์หลายครั้งเป็นเงินถึง 140 ล้านบาท
หลังรับตัวนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ และ นางลัดดาวัลย์ นาทรัพย์ จากตำรวจ ตม. พนักงานสอบสวนคุมตัวขึ้นไปสอบปากคำที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ชั้น 2 สภ.คูคต ทันที พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาประกอบด้วย ข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ และการกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน ที่มีอำนาจกระทำการนั้น ก่อนดำเนินการสอบสวนอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากต้องนำคำให้การไปรวมในสำนวนการสอบสวนที่กำลัง จะแล้วเสร็จ ใช้เวลาเกือบตลอดทั้งคืน หลังจากนั้น จะส่งตัวนายวีระและภรรยาไปให้ สภ.แสนสุข เพื่อ แจ้งข้อหาดำเนินคดีที่เกิดในพื้นที่ สภ.แสนสุข ต่อไป
ต่อมา เวลา 09.30 น. ที่ สภ.แสนสุข ตำรวจ สภ.คูคต คุมตัวนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ และนางลัดดาวัลย์ นาทรัพย์ ภรรยา เดินทางมาด้วยรถอเนกประสงค์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน งธ 9269 เชียงใหม่ มีเพื่อนสนิทและทนายความขับรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 2 ขจ 898 กรุงเทพมหานคร เดินทางตามมาด้วย โดยมี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.แสนสุข และ พ.ต.ท.ดุจดล ด้ายละออง รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.แสนสุข ดำเนินการ แจ้งข้อกล่าวหาเดียวกับ สภ.คูคต แต่ต่างกรรมต่างวาระ และสอบสวนเพิ่มเติมใช้เวลาประมาณ 4 ชม. หลังจากนั้น นายวีระและนางลัดดาวัลย์เดินทางกลับไปทันทีไม่ให้ สัมภาษณ์ มีเพียงทนายความเผยสั้นๆว่า “ได้ประกันตัวแล้ว” ไม่บอกใช้เป็นเงินประกัน หรือหลักทรัพย์ในการประกันตัว
ที่สโมสรตำรวจวันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยว่า ช่วงดึกคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมทั้งนายวีระและภรรยา ทั้ง 2 คนติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาสอบปากคำตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า เบื้องต้นนายวีระให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยเนื้อหาการสอบปากคำได้ เนื่องจากเป็นความลับในสำนวน การให้ปากคำของนายวีระสอดรับกับแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจทำมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ทราบตัวละครเพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินคดี ทำให้ขณะนี้ความจริงเริ่มกระจ่างขึ้น สามารถทำให้ขอศาลออกหมายจับได้อีกหลายราย ทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่รัฐ
“ช่วงเย็นวันนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไล่เลียงว่ามีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมบ้าง ในส่วนคดีนี้ จะเร่งทำงานให้เกิดความกระจ่างชัดโดยเร็ว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับให้เร่งรัดสำนวนสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนคำถามจากสังคมที่ระบุว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่ผมไปหารือกับอัยการสูงสุดแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาว่าเข้าข่ายหรือไม่ สำนวนสอบสวนตอนนี้ครบ 30 วันตามกฎหมาย ป.ป.ช.ในเรื่องของการเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จะเซ็นสำนวนสอบสวน ส่งเลขาธิการ ป.ป.ช.ไปก่อนส่วนหนึ่ง เมื่ออัยการสูงสุดลงความเห็นว่าเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน จะประสาน ป.ป.ช.เพื่อเอาสำนวนกลับมาแจ้ง ข้อหาเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย” รอง ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ที่นายวีระออกไปนอกประเทศเป็นการหลบหนีก่อนที่หมายจับจะออก ที่ผ่านมานายวีระติดต่อขอมอบตัวมาหลายครั้ง กระทั่งครั้งนี้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศ จากดุลพินิจของเจ้าหน้าที่พบว่า การให้ปากคำของนายวีระมีประโยชน์ รวมถึงไม่มีพฤติกรรมหลบหนี อนุญาตให้นายวีระและภรรยาประกันตัวออกไปใน จำนวนเงินคนละ 200,000 บาท หากมีข้อสงสัยจะเรียกมาให้ปากคำเพิ่มเติมในภายหลัง